สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เตรียมเคลื่อนพลบุกโตเกียว วันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ยันส่ง 2 ตัวแทนไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 โดยนวพรรษ จะลงแข่งขันในท่าผีเสื้อ 200 เมตร และ 100 เมตร ส่วน เจนจิรา จะลงว่ายในท่าฟรีสไตล์ ระยะ 50 เมตร และ 100 เมตร
วันที่ 14 ก.ค. 64 พล.อ.เจริญ นพสุวรรณ ประธานฝ่ายกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความพร้อมของ เจนจิรา ศรีสอาด เงือกสาว และ นวพรรษ วงค์เจริญ ฉลามหนุ่ม 2 ตัวแทนทีมชาติไทยที่อยู่ระหว่างการฝึกซ้อม เพื่อลงแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ญี่ปุ่น ว่าขณะนี้ทั้งคู่ยังคงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่สระว่ายน้ำของการกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ภายใต้การดูแลของ “ไซมอน โจนส์” โค้ชที่สมาคมฯ แต่งตั้งขึ้นมา เพื่อดูแลภารกิจในครั้งนี้
“สำหรับการฝึกซ้อมในช่วงโค้งสุดท้าย ในภาพรวมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของนักกีฬาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แม้จะเป็นครั้งแรกของทั้ง 2 คน ซึ่งจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ยอมรับว่าเป็นงานยากในเวทีระดับโอลิมปิก ที่ได้โอกาสลงแข่งขันคนละ 2 รายการ เป้าหมายคือการทำเวลาทำลายสถิติซีเกมส์ให้ได้ก่อน แต่หากทำผลงานได้ดีกว่านี้ ก็เป็นเรื่องดีต่อตัวนักกีฬา”
นวพรรษ จะลงแข่งขันในท่าผีเสื้อ 200 เมตร และ 100 เมตร ส่วน เจนจิรา จะลงว่ายในท่าฟรีสไตล์ ระยะ 50 เมตร และ 100 เมตร ระหว่างวันที่ 26-30 ก.ค. ทั้งนี้จะเข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำ เพื่อรับโอวาทในวันที่ 15 ก.ค. ก่อนจะออกเดินทางไปญี่ปุ่น พร้อมคณะนักกีฬาไทยในวันที่ 16 ก.ค.
นอกจากนี้ พล.อ.เจริญ ยังกล่าวถึงประเด็นการยกเลิกการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่เวียดนาม ในช่วงปลายปีนี้ ว่าจากการประชุมมนตรีซีเกมส์ ยืนยันเลื่อนการแข่งขันซีเกมส์แน่นอนแล้ว เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งต้องรอดูว่าทางเจ้าภาพเวียดนามจะทำเรื่องขอกลับมาจัดอีกครั้งในช่วงเดือน เม.ย. ปีหน้าได้หรือไม่ ทำให้ตอนนี้นักกีฬาว่ายน้ำชุดซีเกมส์ของไทยที่ฝึกซ้อมและคัดตัวกันมาต่างก็ผิดหวัง ซึ่งต้องรอดูความชัดเจนของเจ้าภาพ เพื่อลุ้นให้ซีเกมส์ได้กลับมาจัดอีกครั้ง
“อย่างไรก็ตาม ทางสมาคมฯ ยังมีอีก 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่รออยู่ คือ เอเชียนยูธเกมส์ ที่เมืองซัวเถา ประเทศจีน แข่งขันระหว่างวันที่ 20-28 พ.ย. 64 ถือเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับซีเกมส์ และอีก 1 รายการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ คือ เอเชียนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ในปี 2565 โดยทางสมาคมฯ จะออกระเบียบการคัดเลือกตัวนักกีฬาและประกาศให้ทราบอีกครั้ง”
ในส่วนของเอเชียนยูธจะเปิดรับสมัคร ในวันที่ 20-31 ก.ค. และคัดตัวในช่วงเดือน ส.ค. แบ่งเป็นชาย 13 คน และหญิง 13 คน ที่สมาคมฯ ต้องการส่งแข่งในเอเชียนยูธที่มีทั้งหมด 26 อีเวนต์ ขณะที่รายการเอเชียนอินดอร์ฯ มีแข่งทั้งหมด 22 อีเวนต์ ซึ่งจะมีการคัดเลือกตัวนักกีฬาเช่นกันในช่วงเดือน ส.ค. สามารถติดตามรายละเอียดได้ทางเพจของสมาคมกีฬาว่ายน้ำ
ข้อมูลจาก : ไทยรัฐ