กองปราบจับ เอ็ม ทุ่งใหญ่ คดีฆ่าโหดขี้เมา ลูกซองยิง ลากมาฟันซ้ำด้วยมีดพร้า

จับได้แล้ว เอ็ม ทุ่งใหญ่ เหลืออีก 16 วัน คดีความจะหมดอายุ ก่อนหน้านี้ได้ก่อคดีสะเทือนขวัญ ยิงนายจรูญ ลูกค้าร้านคาราโอเกะ ที่เมาแล้วรบกวนคนอื่น จนมีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุ สุดท้ายเอ็ม ทุ่งใหญ่ เดินไปหยิบปืนลูกซองที่ซ่อนอยู่หลังร้านออกมายิงใส่ นายจรูญ จนล้มฟุบลงกับพื้น ก่อนลากตัวออกมาหน้าร้านแล้วใช้มีดพร้าฟันซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าและลำคออีกหลายครั้งจนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเพื่อนของนายจรูญที่พยายามจะเข้ามาช่วยเหลืออีก 1 นัด จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย

 

 

เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2564 ที่ กอบบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5.บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายไปรวิทย์ หรือ นัฐพงศ์ มีสวน อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 867/2546 ลงวันที่ 18 ส.ค.2546 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต” หลังจับกุมตัวได้ที่บริเวณขนำไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 9 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

 

 

พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2544 ก่อนเกิดเหตุ นายจรูญและพวกได้ไปเที่ยวดื่มกินที่ร้านคาราโอเกะ ในพื้นที่ ม.4 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเมาได้ที่กลับส่งเสียงดังโวยวาย ขว้างปาขวดแก้วก่อความรำคาญให้กับลูกค้าโต๊ะอื่น จนไปกระทบกระทั่งมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับ นายไปรวิทย์ หรือ เอ็ม ทุ่งใหญ่ ขาใหญ่เจ้าถิ่น กับพวกอีก 2 คน ที่นั่งดื่มกินอยู่โต๊ะข้างๆ ก่อนที่นายไปรวิทย์จะเดินไปหยิบปืนลูกซองที่ซ่อนอยู่หลังร้านออกมายิงใส่ นายจรูญ จนล้มฟุบลงกับพื้น ก่อนลากตัวออกมาหน้าร้านแล้วใช้มีดพร้าฟันซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าและลำคออีกหลายครั้งจนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มเพื่อนของนายจรูญที่พยายามจะเข้ามาช่วยเหลืออีก 1 นัด จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย


พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ นายไปรวิทย์ พร้อมพวกที่ร่วมก่อเหตุอีก 2 คน ได้แยกย้ายกันหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปซ่อนตัวต่างจังหวัด ต่อมาตำรวจ สภ.ทุ่งใหญ่ ติดตามจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ 2 ราย เหลือเพียง นายไปรวิทย์ เพียงคนเดียวที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีเรื่อยมา จนเวลาผ่านไปนานกว่า 19 ปี 11 เดือน 14 วัน เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 16 วัน คดีจะขาดอายุความในวันที่ 9 มี.ค.2564 ที่จะถึงนี้ ด้านครอบครัวของผู้ตายเลยต้องนำเรื่องมาร้องความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบเพื่อให้ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. จึงนำกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสเป็นการด่วน กระทั่งทราบว่าปัจจุบันนายไปรวิทย์ได้หนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จนจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 

 

สอบสวน นายไปรวิทย์ ให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้เป็นคนทำให้นายจรูญเสียชีวิต รับเพียงว่าเป็นผู้ใช้ปืนยิงใส่นายจรูญจริง แต่กระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ ส่วนบาดแผลที่ทำให้เสียชีวิตน่าจะเกิดจากการที่ นายธงชัย หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่ถูกจับกุมตัวไปก่อนหน้านี้ ใช้มีดพร้าฟันซ้ำเข้าไปที่ใบหน้าและลำคอหลายครั้งมากกว่า หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัยที่ อ.หัวไทร บ้านญาติของมารดาได้ 1 เดือน แล้วเปลี่ยนชื่อจากนายไปรวิทย์ มาเป็นนายนัฐพงศ์ เพื่อสะดวกในการหนี จากนั้นได้ไปกบดานในพื้นที่ จ.ยะลา ทำงานรับจ้างเป็นช่างในอู่ซ่อมรถยนต์ประมาณ 7 ปี แต่ระหว่างนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปิดล้อมจับกุมภายในอู่ แต่โชคดีไหวตัวหลบหนีออกมาได้ทัน ก่อนจะหนีมาทำงานรับจ้างเป็นช่างซ่อมรถยนต์ที่กรุงเทพฯ และพักอยู่ในอู่ซ่อมรถตลอดมา 

 

 

ผู้ต้องหาให้การด้วยว่ากระทั่งเมื่อคดีใกล้จะขาดอายุความแล้ว จึงคิดจะเปลี่ยนที่อยู่ชั่วคราวด้วยการหลบไปพักอาศัยกับเพื่อนสนิทที่ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อดูแลสวนผลไม้ จนมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ตำรวจกองปราบปรามจะนำตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ทุ่งใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ