คลัสเตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ ติดเชื้อรวม 105 ราย

คลัสเตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 105 ราย กระจายอยู่ในกระจายตัวในหลายส่วน ทั้งบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง ฝ่ายช่าง ฝ่ายบริการต่างๆ 

 

หมอทวีศิลป์ เผยพบคลัสเตอร์ใหม่ สนามบินสุวรรณภูมิ ติดเชื้อแล้ว 105 ราย

 

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กล่าวว่า มีการรายงานในที่ประชุม ศบค.ถึง “คลัสเตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ” จ.สมุทรปราการ พบผู้ติดเชื้อถึง 105 รายใน 6 คลัสเตอร์ใหญ่ๆ กระจายตัวในหลายส่วน ทั้งบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง ฝ่ายช่าง ฝ่ายบริการต่างๆ ซึ่งเขตสุขภาพที่ 6 จังหวัดสมุทรปราการ ได้ประชุมและสรุปข้อมูล โดยบ่ายวันนี้ ท่าอากาศยานสนามบินสุวรรณภูมิร่วมกับเขตสุขภาพที่ 6 จะให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน โดยขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลเพื่อนำไปปฏิบัติ

 

ส่องคลัสเตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ โควิดลาม ติดเชื้อสะสม 105 ราย

 
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แผนที่พบการติดโควิด-19 ในคลัสเตอร์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ข้อมูลวันที่ 14 พ.ค. เวลา 21.00 น. ได้แก่

1.บริษัทการบินไทย 3 ราย วันที่ 14 พ.ค.

2.ไปรษณีย์ 12 ราย วันที่ 23 เม.ย.-5 พ.ค.

3.บริษัทเอกชน 3 ราย วันที่ 26 เม.ย.

4.ฝ่ายบริการขนส่ง 34 ราย วันที่ 27 เม.ย.-7 พ.ค.

5.บริษัทการบินไทย 6 ราย วันที่ 28 เม.ย.- 6 พ.ค. และ

6.บริษัทเอกชนอีกแห่ง 47 ราย วันที่ 5 เม.ย.-10 พ.ค.

 

โควิด-19 : ศบค. เผยยอดผู้ติดเชื้อหน้าใหม่ 198 ราย ส่วนผลตรวจ นพ.ทวีศิลป์-2 ผู้ประกาศเอ็นบีที ไม่ติดโควิด

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า มีการประเมินว่า เขตที่มีการระบาดมากและเพิ่มขึ้นเร็ว คือ ป้อมปราบศัตรูพ่าย ดุสิต ปทุมวัน ราชเทวี คลองเตย ลาดพร้าว เป็นต้น ส่วนคลัสเตอร์ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุด คือ แคมป์ก่อสร้างที่หลักสี่ ติดเชื้อถึง 21.99% ทั้งความแออัด ความหลากหลายเชื้อชาติ อาจเป็นแหล่งระบาดกลุ่มก้อนใหญ่ รองปลัด กทม.รายงานว่า ข้อมูลล่าสุดปลายปี 63 มีคนงานในแคมป์ก่อสร้างประมาณ 6 หมื่นคน จาก 393 แคมป์ที่กระจายใน 50 เขต กทม. เป็นคนไทย 24,612 คน และต่างชาติ 34,600 คน เมื่อเจอการติดเชื้อ ถ้าเป็นต่างชาติก็ดึงออกมา อย่างสมุทรสาครมีพื้นที่หนึ่งก็ช่วยรับไปด้วย เพราะมีล่ามพูดภาษาเดียวกับเขา ต้องหาพื้นที่เฉพาะให้ได้อยู่

 

สำหรับคลัสเตอร์ที่เฝ้าระวัง มีแคมป์ก่อสร้างที่เขตวัฒนา เจอ 14.25% ส่วนคลัสเตอร์ที่พบใหม่ คือ 1.ราชเทวี ชุมชนริมคลองสามเสน แฟลตรถไฟมักกะสัน 2.เขตประเวศ ตลาดบุญเรือง 3.เขตบางรัก สีลม 4.เขตทวีวัฒนา ชุมชนแออัด พบ 15.23% และ 5.เขตสวนหลวง ร้านเฟอร์นิเจอร์ วันที่ 13 พ.ค. กทม.ส่งผลของจุดตรวจ 6 แห่ง ตรวจ 6,693 ราย พบติดเชื้อ 285 ราย คิดเป็น 4.26%

 

ในที่ประชุมจึงมอบให้ กทม.แจ้งไปยังสำนักงานเขตทุกแห่งรายงานผู้ที่อยู่ในแคมป์คนงานมีกลุ่มเสี่ยงต้องรายงาน กทม.เข้ามาศูนย์บูรณาการฯ และแจ้งผู้ประกอบการและแรงงานที่เกือบ 6 หมื่นคน เข้มงวดกวดขันดูแลคน ความเป็นอยู่ สถานที่ โครงสร้าง พฤติกรรมส่วนตัว อย่างที่คับแคบ ดื่มกินนอนในที่จำกัด การกระจายเชื้อเกิดขึ้น การไม่ระวังสุขอนามัยส่วนตัว

 

“คำแนะนำป้องกันโควิดในที่ก่อสร้าง ซึ่งกรมควบคุมโรคและ กทม.รับทราบไปกำกับอย่างดี มาตรการต้องขึงให้ตึงเข้มงวดเต็มที่ ขอความร่วมมือ 6 หมื่นกว่าคนโดยประมาณการต้องได้รับการดูแลอย่างดี มิเช่นนั้นการแพร่เชื้อจะแพร่ออกไป ขอผู้ดูแลคนในปกครองของท่าน แคมป์คนงานทั้งหลาย ช่วยสอดส่องดูแลและป้องกันเชื้อได้ดียิ่งขึ้น”

 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ประธานที่ปรึกษาของ ศบค. เสนอให้มีศูนย์ข้อมูลบริหารจัดการเรื่องเตียง น่าจะต้องเป็นศูนย์เอราวัณเป็นวันสต๊อปเซอร์วิสจุดเดียว ทำหน้าที่คือรับ ส่วนศูนย์คัดแยกผู้ป่วยสีเขียวเหลืองแดง คิดว่ามี 3 เซ็นเตอร์ที่น่าจะทำได้ คือ ศูนย์รับส่งต่อนิมิบุตร รพ.สนามบางขุนเทียน และ รพ.บุษราคัม จะต้องมีรองปลัด กทม. 1 คนกำกับดูแล คือ พญ.วันทนีย์ วัฒนะ รองปลัด กทม. เพื่อดึงเอาคนที่พบว่าป่วยรีบเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุด สำคัญคือเอกซเรย์ตรงนั้น ตอนนี้เทคโนโลยีไม่ต้องให้หมออ่าน ส่งฟิล์มเข้าเอไออ่านโดยเครื่องเลยว่าคนนี้ปอดอักเสบ เยอะแล้วต้องได้รับยาแล้วแยกออกมาทันที นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ขอบคุณ มติชน/ข่าวสด/PPTV36