ช่างทาสียังผวา ตร.รอผลตรวจดีเอ็นเอมัดมือตัดเชือ ผู้ต้องสงสัยยังปฏิเสธทุกข้อหา

คืบหน้าคดี ตัดเชือก ช่างทาสีคอนโด หวิดดิ่ง 26 ชั้น ผู้ต้องสงสัยยังปฏิเสธทุกข้อหา จนท.รอผลจากทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยัน

 

 

 

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 สภ.ปากเกร็ด ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยตัดเชือกช่างทาสีคอนโดมิเนียม เป็นผู้หญิงอาศัยที่ชั้น 21 เตรียมแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และพยายามฆ่า 

 

ตัดเชือกช่างทาสีคอนโด

 

เมื่อวันที่ 17 ต.ค.64 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.วริยา สวัสดิ์วิมล อายุ 34 ปี เจ้าของบริษัทดี.พี.แอคเซส เพ้นท์ติ้ง จำกัด พร้อมนายสอง อายุ 21 ปี ชาวเมียนมา และนายสุทิน ทองบุญ อายุ 46 ปี เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พันธ์พงศ์ ภูริวัฒนพงศ์ พนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ในฐานะผู้เสียหาย คดีที่นายสองถูกมือดีลอบตัดเชือก โดยใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 1 ชม.

 

ตัดเชือกช่างทาสีคอนโด

 

นายสอง เล่าว่า ตนกับนายสุทินได้รับคำสั่งจากนายจ้างให้มาทำการอุดซิลิโคนแนวขอบอลูมิเนียมบานหน้าต่างของอาคารที่เกิดเหตุ เนื่องจากมีน้ำรั่วซึม 6 ห้อง เริ่มต้นอาคารบี ตั้งแต่ชั้นที่ 20-26 ซึ่งอยู่ในแนวเดียวกัน และเริ่มโรยตัวลงมาจากชั้นดาดฟ้าของชั้นที่ 32 ลงมาถึงชั้นที่ 30 ตนดึงเชือกที่ห้อยอยู่พบว่าหนักไม่สามารถดึงได้ จึงก้มมองดูด้านล่างสังเกตเห็นมือคนมาตัดเชือกจนขาดบริเวณชั้นที่ 21 ตอนแรกตกใจมาก เพราะไม่สามารถลงไปถึงพื้นด้านล่างได้แล้วและเกรงว่าจะได้รับอันตราย พอโรยตัวถึงชั้นที่26 พบมีคนอยู่ในห้องจึงตะโกนเรียก เพื่อขอความช่วยเหลือ จนเจ้าของห้องใจดีเปิดหน้าต่าง รับตัวเข้ามาในห้องจนปลอดภัย

 

นายสุทิน กล่าวว่า ก่อนทราบเรื่องว่านายสองถูกตัดเชือก ได้โรยตัวอุดซิลิโคนขอบหน้าต่างห้องพักด้านเดียวกันแต่คนละแนวห้อง ได้ยินเสียงนายสองตะโกนบอกว่าเชือกถูกตัดขาด จึงบอกให้นายสองค่อยๆโรยตัวหาห้องพัก เพื่อขอความช่วยเหลือ

 

ด้านน.ส.วริยา กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุให้นายสองและนายสุทินมาทำงานซ่อมแนวหน้าต่างห้องในห้องพักที่เกิดปัญหาน้ำรั่วซึม จากรอยแตกร้าวของผนังอาคารและรอยรั่วซึมของขอบหน้าต่างเป็นวันแรก ซึ่งได้รับงานซ่อมจากทางนิติของคอนโดมิเนียม ทั้งอาคารเอและอาคารบี โดยเริ่มทำที่อาคารเอ 2 ห้องและอาคารบีอีก 4 ห้อง เริ่มต้นทำที่อาคารเอ เสร็จรียบร้อยแล้ว จึงให้คนงานมาทำที่อาคารบี

 

ตอนเกิดเหตุตนคุมงานอยู่บนชั้นดาดฟ้า กระทั่งได้ยินเสียงนายสองตะโกนว่าเชือกถูกตัด จึงชะโงกมองพบว่าปลายเชือกที่ห้อยยาวถึงพื้นมีความยาวประมาณ 100 เมตร ถูกตัดขาดหายไปประมาณ 70 เมตร ตกใจมากไม่คิดว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะอันตรายมากกับคนงานที่ทำงานในที่สูงอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ หากคนงานไม่ได้ก้มมอง อยากจะรู้เหตุผลว่าผู้ที่ตัดเชือกทำไปเพราะอะไร ซึ่งตนได้ประสานกับทางนิติบุคคลของอาคารแล้วว่างานที่ค้างอยู่จะกลับเข้าไปทำต่อ แต่จะรอให้คดีนี้เสร็จสิ้นก่อน โดยยังไม่ไว้ใจเกรงจะอาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกครั้ง ในส่วนทางคดีทางเจ้าหน้าที่รอผลตรวจดีเอ็นเอที่เชือกและผลตรวจจากทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยืนยัน เพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุต่อไป

 

ตัดเชือกช่างทาสีคอนโด

 

จากการสอบปากคำ หญิงสาวผู้ต้องสงสัยคนดังกล่าว เจ้าของห้องพัก กลับปฏิเสธ อ้างไม่รู้ไม่เห็น กับเรื่องดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอเชิญตัวมาสอบสวนที่ โรงพัก แต่ เจ้าตัว ไม่ยินยอม ดังนั้นพนักงานสอบสวน จึงเตรียมออกหมายเรียก หญิงสาวคนดังกล่าว มาสอบปากคำ ต่อไป พร้อมนำเชือก 2 ส่วน ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ตรวจลายนิ้วมือแขวง บริเวณปลายเชือกที่ถูกตัด

 

ด้าน พันตำรวจเอกพงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผู้กำกับการสภปากเกร็ดเปิดเผยว่าจากการสืบสวนและสอบสวน ขณะนี้พบตัวบุคคลผู้ต้องสงสัยก่อเหตุตัดเชือกโรยตัวของช่างทาสีแล้วซึ่งคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริงโดยมีพยานหลักฐานเป็น พยาน พยานแวดล้อม ทั้ง บุคคลและภาพ จากกล้องวงจรปิดบางส่วน ส่วนที่ขาด สืบค้นนิติวิทยาศาสตร์จากการตรวจดีเอ็นเอ และรอยตัด จับเชือก ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งไปยังกองพิสูจน์หลักฐานสํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อทำการตรวจสอบแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องสงสัยรายนี้ ยังไม่ให้ความร่วมมือใดๆกับพนักงานสอบสวน ตำรวจจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซื้อออกหมายเรียก ผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำต่อไป

 

ขณะที่วันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกนิติบุคคล ของคอนโดดังกล่าวมาสอบปากคำถามในประเด็น ลูกบ้านของคอนโด โดยเฉพาะชั้น 21 มีจำนวนกี่ห้อง แต่ละห้องมีผู้พักอาศัยกี่คน และในวันเวลาเกิดเหตุ แต่ละห้องมีคนอยู่กี่คนและผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ อยู่ ที่ห้องหรือไม่ หากผลการสืบสวน และผลจากนิติวิทยาศาสตร์ออกมาตรงตามที่ ตั้งข้อสงสัยไว้ คดีนี้ ตำรวจพร้อมแจ้งข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ และพยายามฆ่าได้ทันที

 

ส่วนผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงอายุประมาณ 40 – 45 ปี อาศัยอยู่ที่คอนโดชั้น 21

 

 

 

 

 

ขอบคุณ ข่าวสด/อมรินทร์ทีวี