ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านควงปืนลูกซองข่มขู่เจ้าหน้าที่พร้อมชิงรถบรรทุกไม้ไผ่รวก และผู้ต้องหาทั้ง 5 รายหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ โดยแยกย้ายกับหลบหนี
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมบึง, นายวัชระ ละอออ่อน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.1(จอมบึง), เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.1 (จอมบึง) ได้เข้าแจ้งความกับทาง พ.ต.ต.บรรณสิทธิ์ ชัยนวล สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ เพื่อดำเนินคดีกับ นายสุริยนต์ ชมภูพันธ์ หรือ นายยนต์ อายุ 52 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองนกกะเรียน หมู่ที่ 4 ต.รางบัว อ.จอมบึง และเจ้าของรถยนต์อีซูซุ 4 ล้อ สีฟ้า ทะเบียน 82-3195 ราชบุรี พร้อมเป็นผู้จ้างวานตัดไม้ไผ่รวก, นายสมพงษ์ คีรี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ที่ 4 ต.รางบัว อ.จอมบึง คนตัดไม้ไผ่รวก, นายนพดล วรรณเลิศ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 7 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง คนตัดไม้ไผ่รวก, นายเลี้ยน ประเสริฐศักดิ์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 2 ต.รางบัว อ.จอมบึง คนตัดไม้ไผ่รวก, นายบุญกอง สาวง อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 10 ต.รางบัว อ.จอมบึง คนตัดไม้ไผ่รวก และ นายประจวบ เทพสวัสดิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ที่ 7 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง คนตัดไม้ไผ่รวก ในข้อหาลักลอบตัดไม้ไผ่รวก ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ได้เข้าตรวจยึดรถยนต์อีซูซุคันดังกล่าว ซึ่งบรรทุกไม้ไผ่รวกความยาว 2.50 เมตร จำนวน 157 มัด 1,570 ลำ โดยลักลอบตัดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี บ้านหนองปากทาง หมู่ที่ 6 ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ พร้อมได้คุมตัวชายทั้ง 5 ราย ที่เข้าไปลักลอบตัดไม้ไผ่รวก เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขตรับพื้นที่ แต่ นายสุริยนต์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.รางบัว อ.จอมบึง พร้อมภรรยา ได้ขับรถกระบะตอนครึ่ง ไม่ทราบทะเบียน เข้ามาในพื้นที่ พร้อมใช้อาวุธปืนลูกซองยาวข่มขู่เจ้าหน้าที่พร้อมชิงรถบรรทุกไม้ไผ่รวก และผู้ต้องหาทั้ง 5 รายหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ โดยแยกย้ายกับหลบหนี
ต่อมาวันที่ 28 ม.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง) จึงได้รวบรวมหลักฐาน พร้อมเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งหลวง เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดทั้งหมด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องมือและยานพาหนะ ที่ใช้กระทำความผิด เพราะถือเป็นการกระทำความผิดที่อุกอาจ และมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ซึ่งผู้กระทำความผิดเป็นถึงขนาดผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่กระทำความผิดแล้วยังไม่สำนึก แถมยังกล้านำอาวุธปืนมาชิงตัวผู้ต้องหาหลบหนีไป จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีไม่ให้เป็นแบบอย่าง ส่วนไม้ไผ่รวก จำนวน 157 มัด 1,570 ลำ ของกลาง ได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ.3 (พุยาง)
ขอบคุณ ไทยรัฐ