เกิดเหตุไฟไหม้เมรุวัดสหธรรมาราม จ.สมุทรสาคร ขณะกำลังเผาศพชาวบ้าน ใช้เวลาดับเพลิงนาน 30 นาที จึงสงบ ด้าน นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งหางบประมาณสร้างใหม่โดยด่วน
จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้เมรุวัดสหธรรมาราม ในตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ในช่วงขณะที่ได้มีการประชุมเพลิงศพของชาวบ้านรายหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีเปลวเพลิงโหมลุกไหม้ขึ้นมาอย่างรุนแรง สร้างความตกใจเป็นอย่างมาก ทั้งต่อญาติ ๆ ของผู้เสียชีวิตและคณะสงฆ์ในวัด เจ้าหน้าที่ใช้เวลา 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็น วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 24 กุมภาพันธ์ นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ พร้อมด้วย รองนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์,ผู้ใหญ่บ้าน,เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร,เจ้าหน้าที่ของ อบต พันท้ายนรสิงห์,เจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสหธรรมาราม (วัดสหกรณ์ใน) ได้เข้าตรวจสอบความเสียหายอีกครั้ง ซึ่งก็พบว่าแม้โครงสร้างภายนอกที่ยังอยู่ปกติ ไม่มีการถล่มหรือทรุดตัวลงมาแต่ก็อยู่ในสภาพที่โน้มเอียงบ้างแล้ว ส่วนตรงที่พบความเสียหายมากที่สุดคือ ปล่องควันที่ถูกไฟเผาจนระบบเสีย เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีงัดแงะบานเปิดเพื่อนำกระดูกด้านในออกมา
จากการสอบถาม พระธวัชชัย ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสหธรรมาราม กล่าวว่า เมรุหลังนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2520 เป็นการเผาด้วยฟืน ต่อมาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ ได้มาเปลี่ยนเป็นระบบน้ำมันและไฟฟ้า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 ก.พ. ขณะที่มีการประชุมเพลิงศพ โดยเพลิงได้ลุกไหม้หลังจากที่เผาศพไปแล้วราว ๆ 2 ชั่วโมง จากที่แต่ละศพจะต้องใช้เวลาเผา 4-5 ชั่วโมง พระธวัชชัย กล่าวต่อว่า ซึ่งตอนนั้นไฟฟ้าในวัดเกิดดับลง แล้วจู่ ๆ ก็มีไฟลุกท่วมเมรุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุคาดว่า น่าจะมาจากระบบน้ำมันหรือไฟฟ้าขัดข้อง โดยจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ชัดเจน ส่วนศพอื่น ๆ นั้น สามารถมาตั้งทำพิธีได้ตามปกติ แต่การเผาคงต้องนำไปเผาที่วัดอื่นเป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการสร้างเมรุหลังใหม่แล้วเสร็จ ซึ่งทางวัดก็ได้มีการติดต่อวัดใกล้เคียงไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้าน ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จะต้องดูก่อนว่าศพได้เผาสมบูรณ์หรือไม่ หากสมบูรณ์ก็จะนำกระดูกกลับบ้านตามปกติ แต่ถ้ายังเผาไม่สมบูรณ์ก็จะนำไปเผาวัดอื่นต่อ แต่จากการตรวจสอบของทางสัปเหร่อ พบว่าการเผาสมบูรณ์และได้ทำพิธีเก็บกระดูกมอบให้ทางญาติเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง กล่าวว่า เพลิงได้ลุกไหม้จากด้านหลังเมรุ และได้ยินเสียงปะทุ เสียงลั่นอยู่ข้างใน แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แจ้งไปยัง อบต.พันท้ายฯ ซึ่งเพลิงนั้นลุกโหมอย่างเร็วมาก จนทำให้ชาวบ้านที่มางานศพอื่น ๆ พากันออกไปอยู่ห่าง ๆ เพราะไม่รู้ว่าเมรุจะระเบิดหรือถล่มลงมาหรือไม่ อีกทั้งไฟฟ้าก็ดับด้วย
ส่วน นายวัฒนา กล่าวว่า วันเกิดเหตุ ตนได้มาเป็นประธานในการประชุมเพลิง ซึ่งก่อนจะขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ได้มีการพูดกับทางวัดว่า เมรุมีลักษณะไม่ปกติเพราะโน้มเอนมาด้านหน้า น่าจะต้องบูรณะปรับปรุง ส่วนแผนการช่วยเหลือนั้น ต้องมีการสร้างใหม่ โดยต้องปรึกษากับวัดว่าจะเอาไว้จุดไหน
นายวัฒนา กล่าวต่อว่า และจะเร่งให้ อบต. พิจารณาเรื่องงบประมาณที่สามารถนำมาช่วยเหลือเยียวยาได้เพื่อไม่ให้ผิดเงื่อนไข แต่จะต้องทำให้เร็วที่สุดเพราะว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน เนื่องจากเมรุเป็นสิ่งจำเป็นสำคัญที่วัดจะขาดไม่ได้ เพราะทุกคนต้องใช้ ดังนั้น จึงต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนเนื้อหา : khaosod / nationtv / ch7.com
ขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูลดีๆ จาก ALLSUREWIN
สนใจเข้ามาผ่อนคลายกับหลากหลายเกมส์มากมายให้เลือกเล่น ได้ที่ @ALLSUREWIN
เล่นที่นี่มีแต่วิน ต้องวินชัวร์ แอด @winsure
ใครปิด เราไม่ปิด สนใจเสี่ยงดวงติดต่อเราได้ที่ไลน์ @asw888 ตลอด 24 ชม.
เกมดี เกมมัน มากกว่า 1,000 เกม @gamewin
แค่คิดถึงเรา เงินก็อยู่ในบัญชี @asw168
เล่นได้ จ่ายชัวร์ @RT88