เหยื่อออกมาแฉ ไอ้เด่น โมเดลลิ่งเก๊จอมหื่น โดนข่มขืน ทุบตี ใช้มีดข่มขู่ให้ร่วมเสพยา
เมื่อเวลา 14.35 น.วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก น.ส.พราว (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักเรียน ปวช.ปี 3 สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ที่เป็นผู้เสียหายอีกรายที่ถูก นายเด่นภูมิ หรือเด่น วัฒนโชติภิญโญ อายุ 39 ปี ชาว จ.นนทบุรี โมเดลลิ่งเก๊จอมหื่นล่อลวงมาก่อเหตุในท้องที่ สน.บวรมงคล
ผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า ตัวเองไม่เคยรับงานเอนเตอร์เทนมาก่อน แต่ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา พ่อกับแม่ลำบากมาก ประกอบกับต้องเตรียมหาเงินจ่ายค่าเทอมในระยะเวลาอันใกล้นี้ ทำให้ตัดสินใจเข้ากลุ่มพริตตี้เด็กเอนฯหางาน กระทั่งวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นายเด่นภูมิ ใช้ไลน์ทักมาหาบอกจะจ้างงานให้มาเอนเตอร์เทนลูกค้านักธุรกิจชาวมาเลเซีย ที่ย่านจรัญสนิทวงศ์ ให้ค่าตอบแทนสูงเเค่ชงเหล้า 7-8 ชั่วโมง จะเหมาค่ารถไปกลับจากพัทยาและค่าเเรงให้ตนมากถึง 20,000 บาท ตนจึงเรียกแกร็บคาร์จากพัทยามาถึงย่านจรัญสนิทวงศ์ เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.วันเดียวกัน เมื่อมาถึงก็โทรหา นายเด่นภูมิ ว่าจะให้ไปรอตรงไหน
ตอนนั้น นายเด่นภูมิ อ้างว่า ลูกค้าต้องประชุมงานด่วนก่อนจะเสร็จธุระประมาณบ่ายโมง ให้ตนบอกคนขับรถแกร็บคาร์ ไปส่งที่โรงแรมโรสทาวน์ โฮเต็ล ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40/1 เพื่อเปิดห้องพักแบบค้างคืนเอาไว้ก่อน และจะเพิ่มเงินค่าเปิดห้องพักให้ในภายหลัง ตนจึงเข้าไปเปิดห้องเลขที่ 438 เอาไว้โดยยื่นเงินธนบัตรให้พนักงาน จำนวน 1,000 บาท แล้วเข้าไปนั่งรอในห้อง ตามคำสั่งของ นายเด่นภูมิ ไม่กี่นาทีต่อมาก็มีเสียงเคาะประตู ทีแรกตนคิดว่าพนักงานจะเอาเงินทอนมาให้ แต่ปรากฏคนที่มาเคาะคือ นายเด่นภูมิ ก้าวเข้าห้องมาใช้มีดปลายแหลม ยาวราวๆ 6 นิ้ว จี้ตนที่คอ บังคับใช้ถอดเสื้อผ้า และข่มขู่ต่างๆ นานา บอกให้ตนอยู่เฉยคอยทำตามคำสั่ง อ้างว่าหมั่นไส้เด็กพัทยามานานแล้ว เพราะเคยถูกเด็กพัทยาหลอกลวงเอาเงินไป
จากนั้น นายเด่นภูมิ ได้ยึดโทรศัพท์มือถือตนไป พร้อมเงินสดในกระเป๋าประมาณ 3,000 บาท แล้วลงมือข่มขืนตนโดยไม่สวมถุงยางอนามัย ครั้งแรกเจ้าตัวไม่สำเร็จความใคร่ จึงใช้มีดเล่มเดียวกันบังคับให้ตนเสพไอซ์ ร่วมกันกับ นายเด่นภูมิ พอเมายาได้ที่ตนก็ถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งวันทั้งคืน จนถึงช่วงเย็นวันที่ 8 เม.ย.นายเด่นภูมิ ได้พยายามให้ตนวิดีโอคอล ไปหาพริตตี้คนอื่นๆ เพื่อหลอกให้มาที่โรงแรม แต่ตนยังไม่รู้จักใคร ประกอบกับเพิ่งรับงานครั้งแรก เมื่อคุยกับพริตตี้คนอื่นๆ จึงออกอาการมีพิรุธมาก ไม่มีใครกล้ารับงาน ทำให้ นายเด่นภูมิ โกรธมากทั้งทุบตีตนจนได้รับบาดเจ็บ หนำซ้ำยังใช้มีดแหย่เข้าไปในช่องคลอดตนจนเลือดออกและขู่จะฆ่าตนให้ตายหากไม่สามารถหลอกเหยื่อรายอื่นๆ มาได้อีก
น.ส.พราว กล่าวต่อว่า จนเวลากลางดึกวันที่ 8 เม.ย. นายเด่นภูมิ ก็ใช้ไลน์ปลอมไปโพสต์หาเด็กเอนเตอร์เทน ที่พร้อมรับงานในกลุ่มพริตตี้ด้วยตัวเอง จนกระทั่ง น.ส.ฝน เหยื่อรายที่ 2 ซึ่งแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคลไปก่อนหน้านี้ หลงเชื่อ โดยเคส ของ น.ส.ฝน นั้น หลงเชื่อเพราะนายเด่นภูมิ ใช้มัดจ่อคอตนให้ยืนยันว่ามีพริตตี้รายอื่นๆ อยู่ในห้องด้วย ไม่ต้องกลัวอันตราย ทำให้ น.ส.ฝน ตัดสินใจรับงานและนั่งรถแท็กซี่ มาถึงที่โรงแรม เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 9 เม.ย.ซึ่งเมื่อเดินทางมาถึง ก็โดนกระทำไม่ต่างจากตน โดยตลอดทั้งคืนที่ น.ส.ฝน ถูกย่ำยี นั้น นายเด่นภูมิ บังคับให้ตนห่มผ้าคลุมโปงเอาไว้ สลับกับเอาตนไปขังในห้องน้ำ
สาว ปวช.ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า จนเวลาผ่านไปถึงช่วงสายวันที่ 9 เม.ย. นายเด่นภูมิ ได้วางแผนให้ น.ส.ฝน หลอกพริตตี้รายอื่นมาให้อีก ซึ่งท้ายที่สุดก็มีเหยื่อหลงเชื่อ โดยเหยื่อรายที่ 3 นี้ ซึ่งตนก็ไม่ทราบชื่อ ได้เดินทางจากย่านปากเกร็ด มาถึงที่โรงแรมประมาณ 11.00 น.พอมาถึงห้องก็ถูกย่ำยีเช่นกัน ระหว่างนั้น ทั้งตน และ น.ส.ฝน ถูกนายเด่นภูมิ จับไปขังไว้ในห้องน้ำ กระทั่งพวกตนทั้งคู่พากันตัดสินใจออกอุบายขอโทรศัพท์มือถือคืนจาก นายเด่นภูมิ ได้ จากนั้นทั้งตนและ น.ส.ฝน จึงรีบใส่เสื้อผ้าวิ่งออกจากโรงแรมเพื่อหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนเรียกแท็กซี่แยกย้ายกันหลบหนีกลับที่พัก จนสามารถติดต่อกับ น.ส.ฝน ได้เมื่อ 1-2 วันที่ผ่านมา และทราบว่า น.ส.ฝน แจ้งความเอาไว้แล้ว แต่เหยื่อรายที่ 3 ตนไม่รู้ว่าขณะนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
“ตนได้ปรึกษากับเพื่อน และ น.ส.ฝน แล้วเห็นสมควรว่า จะต้องเข้าให้ปากคำกับตำรวจเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ นายเด่นภูมิ บุคคลอันตรายรายนี้ ดังนั้นช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ค.ตนจะเดินทางไปที่โรงพัก เข้าพบ พ.ต.อ.โชคชัย คณะเจริญ ผกก.สน.บวรมงคล เพื่อเเจ้งความร้องทุกข์ ก่อนออกหมายจับตามล่า นายเด่นภูมิ มารับโทษตามกฎหมายต่อไป” น.ส.พราว กล่าว.