เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 ก.ค. ร.ต.อ.หญิง ชนานันท์ ชัยกาวิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋งที่จอดอยู่บริเวณริมคลองส่งน้ำ พื้นที่หมู่ 6 บ้านเนินมะคึก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลพุทธชินราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน สีบรอนซ์-เงิน หมายเลขทะเบียน กฉ-5274 พิษณุโลก จอดอยู่บนถนนลูกรังเรียบคลองส่งน้ำ ภายในรถพบศพชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา คือ นายธฤติพันธ์ บุญนาค อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.8 ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก สภาพศพอยู่ที่เบาะนั่งฝั่งคนขับ แต่คว่ำหน้าฟุบอยู่ที่เบาะข้างคนขับ ศพเริ่มขึ้นอืด ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ในมือขวากำกระป๋องกาวสีส้มที่ถูกเปิดเอาไว้จนเปรอะเปื้อนนิ้วมือ ตามเนื้อตัวไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด และมีขวดน้ำและขวดสปอนเซอร์ถูกดื่มทิ้งเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับเคลื่อนย้ายนำศพส่งผ่าชันสูตรพลิกศพที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช
จากการสอบถาม นางโฉลม รวมญาติ อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนเองมาตกเบ็ดในคลองเมื่อวานนี้ ตั้งแต่ช่วง 09.00 น. เห็นรถคันดังกล่าวจอดอยู่โดยเปิดไฟกระพริบไว้ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงแตรรถบีบลากยาว ตนก็คิดว่าคนเมาก็กลัวเลยขับรถผ่านไปตกเบ็ดห่างไปจากตัวรถ แล้วก็คอยสังเกตอยู่เฉยๆ เพราะตนเองมาตกเบ็ดเพียงลำพัง แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรคิดอย่างเดียวว่าคงเป็นคนเมาขับรถไม่ไหวเลยจอดรถทิ้งไว้แล้วหลับ จน 3-4 โมงเย็น รถก็ยังจอดอยู่ จนมีเพื่อนขับรถผ่านมาอีก 2 คัน ก็เห็นว่ารถยังจอดอยู่แต่เสียงแตรเงียบไปแล้ว จนกระทั่งเช้าวันนี้มีชาวบ้านขับรถผ่านจึงเห็นว่ามีรถคันดังกล่าวยังจอดอยู่ที่เดิมอีก จึงเข้าไปสังเกตพบว่าคนขับเสียชีวิตไปแล้ว จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งทราบภายหลังว่าผู้ตายมีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์อีกด้วย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างสอบสวนหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัดอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวใดๆ หรือไม่ หรือมีประวัติการดมสารระเหยหรือไม่ เพราะว่าในที่เกิดเหตุพบกระป๋องกาวที่ถูกเปิดออกแล้วในมือของผู้ตาย ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะสูดดมเข้าไปจนน็อคเสียชีวิตในที่สุด ส่วนประเด็นอื่นๆ จะต้องรอสอบปากคำญาติเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนศพจะติดต่อให้ญาติมารับกลับไปบำเพ็ญกุศลตามพิธีทางศาสนาต่อไป