เมื่อวันที่ 3 ก.ค.2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงการแฉเบื้องหลังกลโกงไลฟ์ขายทอง ขายเพชร ว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าว มีผู้ค้ารายหนึ่ง ไลฟ์ขายทอง ขายเพชร ออนไลน์ใช้เทคนิคการหลอกขาย โดยการพูดเร็ว ๆ ขายทอง ขายเพชร ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดหลายเท่า แต่สุดท้ายลูกค้ากลับได้สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงกับที่ได้แจ้งเอาไว้ พอลูกค้าจะขอเงินคืน ไม่อยากได้สินค้า ผู้ค้าก็จะหักเปอร์เซ็นเป็นค่าเสียเวลาหรือประจานลูกค้า ส่งผลให้มีผู้เสียหายหลายรายในวงกว้างนั้น
การกระทำดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 หรือทั้งจำทั้งปรับ, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรืออาจจะเข้าข่ายความผิดฐาน ขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใดๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื่อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพหรือปริมาณแห่งของนั้นอันเป็นเท็จ ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอประณามการกระทำในลักษณะดังกล่าว ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ในการนี้ ขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ก่อนชำระเงินซื้อสินค้าใดๆ ก็ตามควรดูลักษณะร้านค้าออนไลน์ หรือผู้ขาย ที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น มีการลงทะเบียนธุรกิจออนไลน์ ดูจากเครื่องหมายทะเบียน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือ DBD มีการตอบรับในทางที่ดีหรือไม่ โดยสังเกตจากกระทู้ หรือเว็บไซต์การรีวิวสินค้านั้นๆ มีการบอกรายละเอียดสินค้าครบถ้วน ชัดเจนหรือไม่ รวมถึงเงื่อนไขการประกันสินค้า การบริการหลังการขาย ที่สำคัญต้องขายสินค้าที่ถูกกฎหมาย ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเป็นสินค้าเลียนเเบบ พึงระลึกไว้ว่าของฟรีไม่มีในโลก ของถูก ต้องถูกอย่างมีเหตุผล การลงทุน การซื้อสินค้าออนไลน์ ต้องตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้รอบด้านเสียก่อนตัดสินใจ
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบว่า ตนเองถูกหลอก สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุที่สถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุทั่วประเทศ, บก.ปอท. หรือ ศปอส.ตร. หมายเลขสายด่วน 1599 หรือ 1155 ได้ตลอด 24 ชม.
ขอบคุณข่าวจากเนชั่น และ ไทยรัฐ