จากการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติร่างพระราชกฤษฎีการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างถนนเพื่อเชื่อมกับสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ โดยมีพื้นที่ดังนี้
1.ตำบลบางกร่าง อำเภอเมืองนนทบุรี
2.ตำบลบางเลน อำเภอบางใหญ่
3.ตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่
เขตพื้นที่เหล่านี้เป็นเขตพื้นที่ที่จะทำการเวนคืนเพื่อสร้างทางหลวงชนบทตามโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์หรือที่เรียกติดปากว่า (สะพานนนทบุรี 1) กับถนนกาญจนาภิเษก เพื่อเชื่อมต่อแม่น้ำเจ้าพระยา และสามารถบรรเทาปัญหาสภาพจราจรติดขัดในพื้นที่นั้นๆ
ที่ดินที่ถูกเวนคืนมีประมาณ 160 ไร่ จำนวน 340 แปลง มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืนประมาณ 220 รายการ กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งจะก่อสร้างถนนขนาดใหญ่ 6-8 ช่องทางจราจร ระยะทางประมาณ 3.82 กิโลเมตร โดยใช้งบประมาณในการดำเนินการ โครงการละประมาณ 4,032 ล้านบาท โดย แบ่งเป็นค่าจ้างที่ปรึกษาสำรวจอสังหาริมทรัพย์ ประมาณ 15 ล้านบาท, ค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 2,396 ล้านบาท, และค่าก่อสร้างประมาณ 1,621ล้านบาท ส่วนผลวิเคราะห์ทางด้านเศรษฐกิจของโครงการมีมูลค่าสุทธิ 1,152.23 ล้านบาท มีอัตราผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจ เท่ากับ 16.6% อัตราผลประโยชน์ต่อต้นทุน เท่ากับ 1.45 ซึ่งถือได้ว่าโครงการนี้มีความเหมาะสม
เมื่อโครงการนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ จะส่งผลให้การจราจรติดขัดน้อยลง ทำให้การเดินทางของประชาชนสะดวกรวดเร็วมากขึ้น กรมทางหลวงได้คาดการณ์ปริมาณจราจรในอนาคตสำหรับกรณีที่มีโครงการกับไม่มีโครงการ พบว่า กรณีที่มีโครงการจะทำให้จำนวนของยานพาหนะลดน้องลง เช่นคาดการณ์ปริมาณการจราจรปี 2567 ถนนนครอินทร์ มีปริมาณการจราจรจำนวน 134,288 คันต่อวัน เมื่อมีโครงการปริมาณยานพาหนะจะลดน้อยลงอยู่ที่ 126,725 คันต่อวัน ถนนกาญนาภิเษกมีปริมาณยานพาหนะ จำนวน 200,513 คันต่อวัน เมื่อมีโครงการปริมาณยานพาหนะลดลงอยู่ที่ 192,213 คันต่อวัน
หลังจากนี้จะส่งร่าง พ.ร.ฎ.ให้สำนักคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบและพิจารณาต่อไป คณะรัฐมนตรีได้กำชับให้หน่อยงานที่เกี่ยวข้องทำงานให้มีประสิทธิ์ภาพ โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการและประชาชนเป็นสิ่งหลัก
ขอบคุณภาพประกอบ