ผู้เสียหายหลายคนออกมาเปิดใจว่าเธอเป็นหนึ่งในเหยื่อของนักการเมืองดัง เคยถูกลวนลามและข่มขืน ทนายตั้มแจง เชื่อว่ามีเหยื่อรวมแล้วเกิน 10 คน
จากกรณี ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน โพสต์รูปภาพของ นศ.สาววัย 18 ปี มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง เข้าขอคำปรึกษาเรื่องคดีความ หลังถูกนักการเมืองใหญ่ระดับรองหัวหน้าพรรค กระทำอนาจารที่ร้านอาหารกึ่งผับอโบฟ อีเลฟเว่น บนดาดฟ้าโรงแรมเฟรเซอร์ สวีทส์ ซอยสุขุมวิท 11 เมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. เบื้องต้นแนะนำผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ลุมพินี เพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ต่อมามีเหยื่ออีกรายได้ออกมาเปิดใจเหตุที่เกิดกับตน โดยจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอรู้จักกับนักการเมืองคนดังเกิดขึ้นในงานสัมมนาเกี่ยวกับหุ้นและการทำธุรกิจเมื่อปี 2559 ซึ่งผู้ก่อเหตุเป็นวิทยากรและทิ้งช่องทางติดต่อไว้ให้สำหรับคนที่ต้องการปรึกษาเรื่องธุรกิจ ตอนนั้นผู้เสียหาย รู้สึกเชื่อใจและเชื่อมั่นว่าผู้ก่อเหตุจะให้คำปรึกษาได้ดี
หลังจากนั้นไม่เกิน 1 สัปดาห์ ผู้ก่อเหตุนัดให้ผู้เสียหายคนนี้ไปคุยรายละเอียดที่สำนักงานที่ถนนวิทยุ เพลินจิต เวลา 6 โมงเย็น เมื่อไปถึงก็แลกบัตรเข้าอาคารตามปกติและขึ้นไปที่สำนักงาน ก่อนคุยรายละเอียดผู้ก่อเหตุรินวิสกี้ครึ่งแก้วให้ผู้เสียหายดื่ม อ้างว่าจะได้คุยกันลื่นคอ ซึ่งปกติแล้วเธอไม่ดื่มแอลกอฮอล์แต่กลัวเสียมารยาทและเกรงใจจึงดื่มไปครึ่งหนึ่งและเรื่มมึน จากนั้นผู้ก่อเหตุเข้ามาลวนลาม จับมือและโอบกอด และบอกว่าถ้าอยากคุยต่อให้รีบดื่มให้หมดแก้ว เธอจึงดื่มจนหมดแก้วเพราะอยากรีบคุยและรีบกลับบ้าน แต่พอดื่มหมดแก้วเธอมีอาการมึนเมา ไม่มีสติ ผู้ก่อเหตุจึงปลุกปล้ำและข่มขืน
ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังต่อว่า เธอตื่นขึ้นมาตอนตี 5 ของเช้าอีกวัน พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่จุดแลกบัตรทางเข้าอาคาร ซึ่ง รปภ.บอกว่าเห็นเธอนอนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ช่วงกลางดึกจึงกลัวว่าจะเกิดอันตราย ไม่รู้จะพาไปนอนที่ไหนจึงพาไปนอนที่จุดแลกบัตร เธอมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอกลับไปที่บ้านผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์มาถาม ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอยอยรับว่าโกรธและเสียใจมากจึงด่าทอ บล็อกไลน์และเบอร์โทรศัพท์ คิดว่าไม่ต้องเจอกันอีกเลย
ทั้งนี้ เธอเก็บเรื่องนี้เป็นความลับมา 4-5 ปี ไม่เคยบอกใครเลย แม้แต่แฟนและครอบครัว จนกระทั้งเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาเห็นข่าวและมีผู้เสียหายถูกกระทำในลักษณะเดียวกันก็รู้สึกช้ำใจและโกรธที่ผู้ก่อเหตุไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีกหลายคน ตอนนี้อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะแจ้งความด้วยอีกคนดีหรือไม่
นอกจากคำบอกเล่าที่ผู้เสียหายบอกกับทีมข่าว เธอยังมีเอกสารหน้าแชตไลน์ที่เคยคุยนำมาให้ทีมข่าวดูแต่ไม่ค่อยอยากให้ถ่ายภาพ หรือ เอาเอกสารมาเป็นข้อมูล เพราะ กลัวว่าเอกสารจะหลุดแล้วคนใกล้ตัวเธอจะรู้ว่าเธอเป็นเหยื่อ
นอกจากนี้นายทนายษิทรายังกล่าวอีกว่า หากรองหัวหน้าพรรคคนนี้ไม่กลัวความผิด เมื่อวันที่ 13 เม.ย.จะพยายามโทร.ไปขอโทษผู้เสียหายและแม่ทำไม อยากให้ออกมาปฏิเสธ เพราะเชื่อว่าจะนำแชตขอบคุณของแม่เขาก่อนทราบเรื่องมาแสดง นอกจากนี้ เชื่อว่ามีเหยื่อรวมแล้วเกิน 10 คน เพราะมีพฤติกรรมลักษณะนี้มาตั้งแต่ปี 2556 ทราบว่าสถานที่ก่อเหตุจะใช้ร้านอาหารแห่งนี้นัดพบหลายครั้ง คนก่อเหตุมักข่มขู่เหยื่อ ขอให้เหยื่อรายอื่นหากถูกกระทำลักษณะนี้ให้มาแจ้งความเอาผิด เพราะโทษคดีนี้อายุความถึง 20 ปี ส่วนตัวไม่กลัวจะถูกฟ้องเพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ขอบคณ PPTV36/ไทยรัฐ