ชายใหญ่วัย 53 ปี ชาวขอนแก่น วางโทรศัพท์ไว้ท้ายรถยนต์กระบะของญาติ ถูกมือดีฉกเอาโทรศัพท์มือถือไปเข้าแอพพ์ธนาคารกดเงิน สูญเงินไปกว่า 500,000 บาท เชื่ออาจจะเป็นคนใกล้ชิด เนื่องจากใช้รหัสปลดล็อกผ่านเอทีเอ็มเป็นวันเดือนปีเกิดของตนเอง
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Natthawat Muijan โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ขอความช่วยเหลือหน่อยครับ ใครเห็นบุคคลในภาพในคลิปวีดีโอ ช่วยแจ้งเบาะแสให้ผมหน่อย ผมทำโทศัพท์หาย เขาไปสแกนเอาเงินผมออกไป 5 แสนบาท เหตุเกิดวันที่ 16/11/65 เวลา 20.02 น. ที่ตู้เอทีเอ็ม หจก.หมอยาพลาซ่า ถนนมุกมนตรี นครราชสีมา เวลา 20.53 น. ที่ตู้เอทีเอ็ม ข้างเซเว่นพาวเวอร์ออย นครราชสีมา เวลา 21.07 น. ที่ตู้เอทีเอ็ม บจก.เกณิกา นครราชสีมา จนถึงตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเลย จึงขอความช่วยเหลือมาทางสื่อ ผมมีรางวัลตอบแทนให้ครับ”
ล่าสุดวันที่ 10 ธ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์คือ นายณัฐวัฒน์ มุยจันทร์ อายุ 53 ปี ชาวบ้านโจดหนองแก ต.โจดหนองแก อ.พล จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 16 พ.ย.2565 ตนได้ขับรถบรรทุก 10 ล้อจะมาซ่อมโครงหลังคาเหล็กที่อู่ซ่อมรถของน้อง ซึ่งเป็นญาติกัน ซึ่งขณะนั้นมีรถกระบะของญาติจอดอยู่ที่อู่เช่นเดียวกัน
นายณัฐวัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่กำลังซ่อมโครงหลังคารถบรรทุก ตนเผลอวางโทรศัพท์ไว้ที่บริเวณด้านท้ายรถกระบะของญาติ จากนั้นก็เดินเข้าไปทานข้าวภายในบ้านญาติ โดยลืมหยิบโทรศัพท์มาด้วย ก่อนจะรู้ตัวอีกที ออกมาก็ไม่เจอรถกระบะของญาติที่จอดอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว และโทรศัพท์ก็หายไป โดยตนสัญนิษฐานว่า ช่วงที่รถกระบะของญาติขับออกไป โทรศัพท์อาจจะหล่นระหว่างทาง แล้วมีคนเก็บได้
นายณัฐวัฒน์ กล่าวว่า ครั้งแรกกดที่หน้า บริษัท หมอยาพลาซ่า ถนนมุขมนตรี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่อมาเวลา 20.53 น. คนร้ายนำโทรศัพท์ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มอีกครั้งที่ข้างร้านสะดวกซื้อ พาวเวอร์ออย จ.นครราชสีมา และครั้งสุดท้ายเวลา 21.07 น. คนร้ายไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม บจก.เกณิกา นครราชสีมา โดยคนร้ายได้เงินไปทั้งหมด 500,000 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นเงินเก็บที่ได้จากการไปทำงานที่ต่างประเทศ
นายณัฐวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความแต่คดียังไม่คืบหน้า การดำเนินการล่าช้า เนื่องจากทางธนาคารยังไม่สามารถให้ภาพจากกล้องภายในตู้เอทีเอ็มได้ จึงไม่มีหลักฐานให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนภาพวงจรปิดที่นำมาโพสต์ตามหา ตนก็เป็นคนประสานเจ้าของร้านค้าข้าง ๆ ตู้เอทีเอ็มเองทั้งหมด ต้องเสียเงินค่ารถวิ่งไปกลับจาก อ.พล จ.ขอนแก่น ไปที่ตัวเมือง จ.นครราชสีมา เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา วอนให้ธนาคารเร่งรัดดำเนินการหาภาพจากกล้องวงจรปิดในตู้เอทีเอ็มให้ที
ขอบคุณ ข่าวสด