ก่อนหน้านี้นายอัจฉริยะ ถูกเพิกถอนออกจากการทำคดีเพราะความคิดเห็นไม่ตรงกับแม่แตงโม และต่อมาส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ก็ออกมาประกาศมูฟออนเช่นกัน ในเวลาต่อมาแม่ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีดังกล่าว พร้อมพูดถึงทนายคนใหม่ที่เข้ามารับทำคดี ว่านี้คือทนายคนสุดท้าย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ไลฟ์ถึงคดีแตงโมถึงเรื่องของการทำคดีว่า คดีนี้ เสียเงินไปไม่น้อย แต่ไม่ได้สนใจ เพราะเสียความรู้สึกกับแม่มากกว่า ที่แม่ไม่อยู่กับร่องกับรอย จะได้ทำคดีนี้ต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับแม่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคือการไต่สวน จากกรณีที่แม่ไปยื่นเพิกถอนทนายความ ซึ่งเราได้ส่งหนังสือคัดค้านไปขอทำคดีนี้ต่อ ขอให้ไต่สวนโจทก์คือแม่
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า คุณไม่รู้หรอกว่า ผมเสียน้ำตาไปสองครั้ง วันที่เสียความรู้สึกที่สุดคือ วันที่คุณทำกับผมหลายแบบ ผมอยากพูดให้คนทั้งประเทศฟังว่า ไม่เคยเจอแม่แบบนี้เลย คุณไม่รักลูกเลย คุณบอกว่า สู้เพื่อลูก แต่ไม่เคยจริงจัง มองแต่ปัจจัยอื่น เราร้องไห้คิดว่า วันนี้มีพ่อแตงโมอยู่เชื่อว่าไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ผมถูกเสียดสี โดนเหยียดหยาม เสียเงินไป 5 แสน ทนได้ แต่ความเจ็บปวดที่แม่ทำกับตน เดี๋ยวพูดว่าลูกรัก เดี๋ยวบอกว่าใช้ไม่ได้ ผมมีความรู้สึกนะ ผมเป็นคน ต้องมาทนกับแม่ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย ถามว่าท้อมั้ยท้อ แต่ยังอยากพิสูจน์ว่าน้องแตงโมไม่ได้ตกท้ายเรือ พร้อมตั้งคำถามว่า แม่แตงโม เป็นแม่แตงโมจริงหรือไม่ ผมรู้หมดว่า คุณคุยอะไรกับใคร เรียกเงินใคร เพราะมีหลักฐานหมด ที่ทำไม่ใช่เพราะหิวแสง แต่สู้เพื่อแตงโม และพี่น้องประชาชนในวันข้างหน้า
ในเวลาต่อมาส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้ออกมาไลฟ์สด ล่องเรือดื่มไวน์ เผยความจริง หลังจากเป็นอิสระจากทุกเรื่องแล้ว โดยระบุในไลฟ์ว่า
ฉลองแด่ความเป็นอิสระปลดปล่อยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มันเหนื่อยมากจริงๆ แล้วพี่อัจฉริยะกับผม โดนแม่แตงโมเทตั้งแต่วันที่ 10 แล้ว เพียงแต่ว่าผมค่อยๆบอกพี่อัจ แต่พี่อัจรับไม่ได้ เข้าใจว่าผมโกหก ออกมาได้แล้วพี่อัจ ถ้าออกมาแล้วก็จะสบายไปทำเรื่องอื่น ปล่อยวางได้แล้ว ผมรับได้ ค่อยๆปล่อย ค่อยๆเปลี่ยนแปลง แต่พี่อัจแกทำใจไม่ได้ ผมเริ่มปล่อยวางตั้งแต่วันที่ 10 แล้ว ถ้าแม่ต้องการความยุติธรรมให้กับลูก แล้วเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเต็มเหนี่ยว แล้วไม่คิดเรื่องเงินเป็นตัวตั้งเราก็ยังสู้ได้ พรรคก็จะไม่เสียหาย ต้องเอาความยุติธรรมเป็นตัวตั้งผมก็จะสู้ด้วย ต้องเอาความถูกต้องเป็นตัวตั้ง ถ้าเอาอย่างอื่นเป็นตัวตั้งผมก็กลัวเสียหาย ก็ต้องขอบคุณคุณแม่ที่เริ่มเทพวกเราตั้งแต่วันที่ 10 ฝากบอก FC ให้ไปบอกพี่อัจให้ยอมรับมัน มันคือความจริง
ถ้าแม่ต้องการความยุติธรรมให้กับลูก แล้วเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการเต็มเหนี่ยว แล้วไม่คิดเรื่องเงินเป็นตัวตั้งเราก็ยังสู้ได้ พรรคก็จะไม่เสียหาย ต้องเอาความยุติธรรมเป็นตัวตั้งผมก็จะสู้ด้วย ต้องเอาความถูกต้องเป็นตัวตั้ง ถ้าเอาอย่างอื่นเป็นตัวตั้งผมก็กลัวเสียหาย ก็ต้องขอบคุณคุณแม่ที่เริ่มเทพวกเราตั้งแต่วันที่ 10 ฝากบอก FC ให้ไปบอกพี่อัจให้ยอมรับมัน มันคือความจริง
และในเวลาต่อมา นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของแตงโม ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวช่อง3ว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ตอนนี้มีทนายความคนใหม่แล้ว คือ ทนายชนบท ศุภศรี จะเข้ามาทำคดีนี้ต่อ ตนกับ ส.ส.เต้ ไม่ได้โกรธหรือมีปัญหากัน ส.ส.เต้ ดูแลคุณแม่อย่างดี พอ ส.ส.เต้ ถอนตัวก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ จบแยกย้ายกันไป โดย ส.ส.เต้ บอกว่าเหนื่อย แต่ยังห่วงคุณแม่เหมือนเดิม ดูแลห่างๆ แม่ก็ไม่ได้โกรธเป็นสิทธิ์ของเขา ตนก็อยากให้ ส.ส.เต้ พักเพราะจะเปลี่ยนทนาย ไม่ได้เลิกคบกัน แม่มีทนายคนใหม่ก็ต้องปรึกษาทนายคนใหม่มากกว่า
ก่อนหน้าที่ ส.ส.เต้ จะถอนตัวเป็นตัวกลางช่วยแนะนำเรื่องต่างๆ และเป็นตัวกลางระหว่างคุณแม่กับนายอัจฉริยะ โดยเมื่อ 8 โมงเช้า วันที่ 14 มิ.ย. นายอัจฉริยะ โทรมาแจ้งกับ ส.ส.เต้ เพื่อขอถอนตัวโดยไม่บอกเหตุผล คุณแม่เชื่อว่าเหตุผลของนายอัจฉริยะ คือไม่มีเอกสารหลักฐานอะไรมาแสดง
ในวันเดียวกันก็มีการประชุมกันเรื่องดคีแตงโม ซึ่งนายอัจฉริยะ จะต้องนำเอกสารหลักฐานทางคดีมาแสดง ซึ่งตนก็หวังจะได้เห็นหลักฐาน แต่นายอัจฉริยะไม่มา กลับฉกฉวยเอกสารของคุณแม่ไปทำเรื่องฟ้องร้องกับศาลจังหวัดนนทบุรี เอาผิดกับ 5 คนบนเรือในข้อหาฆาตกรรมอำพราง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณแม่ ไม่ปรึกษาตนกับ ส.ส.เต้ และไปแจ้งความ ส.ส.เต้ ใช้เอกสารเท็จเพิกถอนการฟ้องคดีแตงโม ทุกคนตกใจ นายอัจฉริยะ ทำให้คุณแม่โกรธ กลัว ปอ ตนุภัทร โกรธ ไปฟ้องเขาโดยไม่บอกเขา เพราะคุณแม่ยังคุยกับปอ ปกติดี
“คิดมาเรื่อยๆ แม่ไม่ใช่คนกินหญ้านะ แล้วก็ไม่ใช่เห็นว่าเราเป็นผู้หญิงแล้วคุณจะมาหลอกมาล่ออะไรเราได้ตามใจ ถ้าจะไปเป็นคดีความกับใคร แล้วต้องไปสั่งฆ่าใครด้วยมาตรานั้นมาตรานี้ แม่ไม่ทำ จะฟ้องโน้นเลยฆาตกรรมเลยมันได้ยังไง”
คุณไปทำลายบุคคลซึ่งจริงๆคุณก็ไม่เคยรู้จักเขาด้วยนะ ปอ แต่แม่รู้จักปอ เขาทำบุญให้เราตลอด เขากราบขอขมา เขาได้รับสารภาพว่าเขาเป็นผู้ผิด เขาแสดงออกมาอย่างนี้ จะให้แม่บอกไม่ให้อภัยได้ยังไง ถึงมันจะเท็จหรือจริงเขาได้แสดงออกของเขามันทำให้เราสบายใจขึ้น เขาจะรับผิดชอบ ไม่น้อยไปกว่าที่น้องโมรับผิดชอบ
นางภนิดา กล่าวด้วยว่า ไม่เคยคุยเรื่องเงินเยียวยาเลย โดยปอ ตนุภัทร โทรมาคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ไม่เคยไปบอกว่าอยากได้เงิน 30 ล้านบาท จากปอ เขาบอกเพียงจะรับผิดชอบจะดูแลคุณแม่อย่างดี ตอนนี้ตนยังเสียใจอยู่จะไปเรียกเงินเลยเหรอ เขามีเงินให้อยู่แล้วถ้าคุณแม่จะเรียก แต่มันยังไม่ถึงเวลา เพราะยังไม่พร้อมเรื่องทนายความที่จะไปเจรจาด้วย คุณแม่ฟ้องเรื่องเดียวมาตรา 290 ที่มันเบาหน่อย เขาอาจจะโดนคุก 2 เดือนให้รู้ผิดรู้ชอบ แล้วเขาก็เยียวยาให้เรา
ขอบคุณ ข่าวสด/คมชัดลึก/เรื่องเล่าเช้านี้/ไทยรัฐ