โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี ไปต่อไม่ไหว สั่งปิดกิจการ หลังเปิดมานาน 58 ปี

โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี จ.อุดรธานี ประกาศปิดกิจการ หลังเปิดมายาวนาน 58 ปี เนื่องจากพิษเศรษฐกิจ พนักงานร่ำไห้ ตกงาน เกือบ 300 คน และพนักงานชั่วคราวอีก 1,000 คน

 

 

วันที่ 8 มิ.ย. 2564 ที่โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี เทศบาลตำบลกุมภวาปี อ.กุมภวาปี บริษัทฯ มีการนัดหมายให้พนักงาน ลูกจ้างของบริษัท มารับฟังคำชี้แจงการเลิกกิจการ หลังจากดำเนินกิจการมามากกว่า 58 ปี โดยติดป้ายแบ่งสถานที่ประชุมเป็น 6 จุด มีพนักงาน ลูกจ้าง รวม 280 คน ทยอยเข้าประชุมแบบแยกส่วน จากนั้น นายฮิเดยูกิ มุราคามิ ประธาน บริษัทน้ำตาลกุมภวาปี จำกัด เดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง ขณะสื่อมวลชนได้รับแจ้งให้ออกนอกพื้นที่ของโรงงาน ห้ามถ่ายภาพ

 



ทั้งนี้ บริษัท มีการแจกเอกสาร 2 ฉบับ ฉบับแรก ประกาศวันหยุดพิเศษ ระบุเป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปี พนักงานประจำ 8 มิ.ย.-2 ก.ค.64 พนักงานชั่วคราว 8-12 มิ.ย.64 ที่ยังคงได้รับค่าจ้าง และพนักงานที่ยังคงต้องมาทำงาน ในช่วงวันหยุดพิเศษ บริษัทฯจะจ่ายค่าแรง และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้, ฉบับที่ 2 เป็นจดหมายถึง เกษตรกรชาวไร่อ้อยครอบครัวตราซ้อนที่เคารพรักทุกท่าน ประกาศแจ้งหยุดกิจการ ที่ดำเนินกิจการมาเกินกว่าครึ่งศตวรรษ ขอขอบคุณเกษตรกรชาวไร่ ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

 



ทั้งนี้ ในจดหมาย ฉบับที่ 2 ยังระบุด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทตกอยู่ในสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจที่ยากลำบาก ดังนั้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ จึงมีมติตัดสินใจจะหยุดกิจการน้ำตาลหลังจากนี้อย่างเป็นทางการ จากการตัดสินใจครั้งนี้ บริษัทได้ร้องขอบริษัท น้ำตาลเกษตรผล จำกัด ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทน้ำตาลตราช้อนเช่นเดียวกัน ให้รับการโอนย้ายสัญญาซื้อขายอ้อยที่บริษัททำร่วมกับเกษตรกรทุกท่าน ขอให้ทุกท่านโปรดเข้าใจ สำหรับรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง บริษัทน้ำตาลเกษตรผล จำกัด จะแจ้งให้เกษตรกรทุกท่านทราบต่อไป 

 



นายชัยวัฒน์ ศรมณี สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.อุดรธานี เปิดเผยหลังการประชุมว่า บริษัทฯชี้แจงว่าประสบปัญหาขาดทุน ติดต่อกันมารวม 6-7 ปีแล้ว ก็จะปิดกิจการทั้งหมด หรือเลิกกิจการ ไม่เหลือกิจกรรมอะไร ซึ่งมีพนักงาน ลูกจ้างอยู่รวม 280 คน ทั้งรายวันรายเดือนก็จะต้องเลิกจ้าง รวมทั้งลูกจ้างตามฤดูกาลอีกกว่า 1,000 คนก็จะไม่มีการจ้าง โดยวันนี้ได้ประกาศหยุดกิจการ เขาก็ประกาศหยุดงานตั้งแต่วันนี้-2 ก.ค.64 แบบยังมีค่าจ้าง แต่ยังมีแรงงานที่สมัครใจ เข้ามาช่วยเก็บงาน ซึ่งก็จะได้รับค่าจ้างเพิ่มให้ ถือว่ามาทำงานในวันหยุด

 

 

“การเลิกจ้างจะเริ่มวันที่ 3 ก.ค.64 แบ่งเป็นการสมัครใจลาออก จะได้รับการชดเชย 3 ส่วน คือ เงินชดเชยตามกฎหมาย , เงินช่วยเหลือพิเศษ และเงินช่วยเหลือจากการลาออก คนที่สมัครใจลาออก ให้ยื่นเรื่องวันนี้-12 มิ.ย.นี้ เมื่อเลยวันที่ 3 ก.ค.64 ถือว่าสิ้นสุดการเป็นพนักงาน หากไม่สมัครใจลาออก ก็จะดำเนินการเลิกจ้างตามกฎหมาย ซึ่งจะจ่ายชดเชยเฉพาะตามกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนแตกต่างกันมาก อาทิ ผู้มีอายุงานมากกว่า 20 ปี ตามกฎหมายจะได้ชดเชย 400 วัน เขาจะบวกเพิ่มเงินช่วยพิเศษอีก 120 วัน และเงินช่วยเหลือการลาออก 90 วัน รวมแล้ว 610 วัน เขาเรียกโครงการนี้ว่า มาราอิ จากกันด้วยดีสู่อนาคตใหม่”

 

ปิดตำนาน 58 ปี ! โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี



สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.อุดรธานี กล่าวต่อว่า วันนี้สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน ได้จัดเจ้าหน้าที่ไปให้คำปรึกษา แก่พนักงาน ลูกจ้างที่จะตัดสินใจ ตั้งแต่พรุ่งนี้ ถึงวันที่ 12 มิ.ย. ทั้งนี้พนักงาน ลูกจ้าง ที่อยู่ในระบบประกันสังคม ยังจะได้รับเงินจากประกันการว่างงาน หากลาออกจะได้รับ 45 เปอร์เซ็นต์ 90 วัน หากถูกเลิกจ้างได้ 70 เปอร์เซ็นต์ 200 วัน ทำให้บริษัทเพิ่มเงินช่วยในส่วนนี้ เขาบอกว่าหากดำเนินกิจการต่อ อาจจะไม่มีเงินเดือนจ่าย ผลกำไรที่เคยได้รับไป ยังพอนำมาชดเชยให้ทุกคนได้

 

ปิดตำนาน 58 ปี ! โรงงานน้ำตาลกุมภวาปี

 

นายไพรวัลย์ ฤทธิมหา ประธานสหภาพแรงงานน้ำตาลกุมภวาปี เปิดเผยว่า จะร่วมโครงการนี้กับโรงงาน เพราะคงไม่มีทางเลือกที่ดีกว่านี้ โดยโรงงานให้หยุดพักร้อนพิเศษ ไม่ต้องไปทำงานตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 3 ก.ค.นี้ จากนั้นก็จะพ้นสภาพพนักงาน ซึ่งพนักงานทุกคนคงจะไม่คัดค้าน เพราะเป็นนโยบายผู้ถือหุ้น ถึงคัดค้านไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตนพอที่จะรู้มาก่อนว่าโรงงานจะปิดกิจการ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ หลังจากนี้พนักงานทุกคนก็คงจะเริ่มต้นหางานใหม่ทำ พนักงานคนไหนมีที่ดินก็คงจะทำกันไปก่อน และดูสถานการณ์ตั้งหลัก 1-2 เดือนก่อน แล้วใครมีโอกาสไปทางไหนก็ค่อยไป

 



“ความรู้สึกของผมตอนนี้ก็เสียใจ เพราะด้วยที่ผูกพันกับโรงงานมานาน ทำงานมา 24 ปี เรียนจบตอนปี 40 ฟองสบู่แตก ก็ได้มาทำงานที่นี่ เติบโตจากที่นี่ ซึ่งมาเจอเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้ ค่อนข้างที่จะสะเทือนใจพอสมควร เพราะที่โรงงานนั้นก็เหมือนบ้านอีกหลังหนึ่ง เวลาส่วนใหญ่ก็อยู่ที่โรงงานเกือบทั้งหมด” นายไพรวัลย์ กล่าว

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/kapook.com/มติชน/ข่าวสด