ชาวเมืองอุดรธานีผวา หลังคนร้ายเลียนแบบไอ้คลั่งทำร้ายคน ล่าสุดเอามีดซุ่มแทงสาวแกร็บฟู้ดเจ็บขณะติดไฟแดงสี่แยกศรีเทพ ถนนอุดรดุษฎี โชคดีหนีทัน ผกก.ไม่ฟันธงเลียนแบบ คาดประสงค์ชิงทรัพย์ ตำรวจปิดเมืองล่า
เมื่อกลางดึกวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองสภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุมีคนขับรถแกร็บส่งอาหารถูกคนร้ายใช้ของมีคมไล่ทำร้ายร่างกายเหตุเกิดบริเวณซอยกิจขยัน หรือซอยเสาไฟแดงเก่า ถ.อุดรดุษฎี เขตเทศบาลนครอุดรธานี
โดยคนร้ายเป็นชายรูปร่างผอมสูง สวมเสื้อยืดคอกลมสีกรมท่า กางเกงขายาว ขี่รถจยย.แบบหญิง ผู้บาดเจ็บเป็นสาวแกร็บฟู้ด ชื่อ น.ส.สายฝน ขาลวงค์ อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ถูกของมีคมบาดที่ต้นแขนขวายาวประมาณ 2 ซม. มีเลือดไหลซึมออกมา เจ้าหน้าที่ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
จากนั้นตำรวจได้นำ น.ส.สายฝน ไปชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งพบบริเวณดังกล่าวมืดไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง คนร้ายจอดรถจักรยานยนต์ยืนอยู่ที่มุมมืด และวิ่งเข้าหาผู้บาดเจ็บ และเมื่อส่องไฟฉายก็พบใบมีดปอกผลไม้หลุดออกจากด้ามตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายก่อเหตุ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.น้ำฝน ให้การว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์มาจากร้านอาหารใกล้ตะวันแดง ถนนวัฒนานุวงศ์ มุ่งหน้าไปส่งลูกค้าที่ร้านผับ ตนได้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยกิจขยัน หรือซอยเสาไฟแดง ทะลุไปสี่แยกไฟแดงศรีเทพ ถนนอุดรดุษฎี ขณะติดไฟแดงเห็นคนร้ายเป็นชาย รูปร่างสูงใหญ่ ยืนอยู่หน้าปากซอย มีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ ได้วิ่งเข้ามาหาตน ตนได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีออกมา โดยไม่รู้ว่าถูกมีดแทงที่ต้นแขน ตนนำอาหารมาส่งลูกค้าห่างจากจุดเกิดเหตุ 500 เมตร จึงรู้สึกเจ็บต้นแขน จึงบอกให้พลเมืองดีดูให้ จึงรู้ว่าถูกแทง แพทย์เย็บ 2 เข็ม
ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้เสียหายใช้เส้นทางลัด ไม่ใช่เส้นทางหลัก และสวมหมวกกันน็อกปิดหน้า ส่วนคนร้ายยืนอยู่ในมุมมืดและอับ ทำให้ไม่รู้ว่าผู้เสียหายเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คาดว่าไม่ใช่พฤติกรรมการเลียนแบบ เพราะคนที่ก่อเหตุกับผู้ที่อ่อนแอกว่า ผู้ก่อเหตุในครั้งนี้อาจจะประสงค์อย่างอื่น และขณะก่อเหตุมีรถผ่านมาและมีแสงไฟ พรุ่งนี้จะออกไปดูที่เกิดเหตุเผื่อจะได้วัตถุพยานเพิ่ม ในความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าจะเป็นการชิงทรัพย์ แต่ขอดูกล้องวงจรปิดให้มากกว่านี้ ส่วนมีดที่พบในที่เกิดเหตุน่าจะเป็นประโยชน์ จะส่งให้ ทีมพิสูจน์หลักฐานพิสูจน์รอยนิ้วมือต่อไป.
ขอบคุณ ไทยรัฐ/ข่าวสด