ที่บริเวณหน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย รอง ผบช.ภ.3 (หัวหน้างานป้องกันปราบปรามยาเสพติด), พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี, พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ, พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.ณรงค์ เสวก, พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา และชุดจับกุม สภ.โนนแดง ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยมีผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายอาทร ทองแจ้ง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 ม.4 ต.ห้วยสะแก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ และ น.ส.นิชาภัทร จันทร์โทนอก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขท่ 198 ม.6 ต.ห้วยสะแก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางเป็นรถกระบะ 1 คัน และยาบ้า จำนวน 2,682,000 เม็ด
ทั้งนี้ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า การจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้า วันที่ 1 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สภ.โนนแดง กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้รับแจ้งจากข้อมูลข่าวในทางการสืบสวนว่า จะมีขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ ซึ่งใช้รถยนต์ตามเส้นทางถนนมิตรภาพ โดยรับยาบ้าจากบริเวณ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มุ่งหน้าสู่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงได้มีการตั้งด่านตรวจสกัดบริเวณหน้าตู้ยามโนนตาเถร ม.9 ต.โนนตาเถร อ.โนนแดง จ.นครราชสีมา และตามเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ
ต่อมา เวลา 09.00 น. ได้พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมกซ์ สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน ผจ9704 ระยอง (ซึ่งภายหลังตรวจสอบเลขทะเบียนแท้จริงคือ ผข 7338 เพชรบูรณ์ ครอบครองโดยนายอ่อน ทองแจ้ง พ่อของนายอาทรฯ ผู้ต้องหา) พบนายอาทรฯ เป็นผู้ขับขี่รถ และมี น.ส.นิชาภัทรฯ แฟนสาวนั่งมาด้วย โดยทั้ง 2 คนมีท่าทีพิรุธ ไม่ยอมให้ทำการตรวจค้น อ้างว่าไม่สามารถเปิดท้ายกระบะให้ตรวจดูได้ ชุดจับกุมได้พยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจ และแจ้งเหตุความจำเป็นในการตรวจค้น แต่ทั้ง 2 คน พยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจแล้วว่าเป็นรถขนของผิดกฎหมาย จึงได้แสดงตัวจับกุม และเปิดท้ายรถกระบะตรวจค้น ก็พบว่ามีถุงปุ๋ยใส่ไว้ท้ายกระบะหลายถุง เมื่อนำลงมาตรวจภายในก็พบว่าเป็นถุงใส่ยาบ้า รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,682,000 เม็ด มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลาง และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนไว้ จากสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากเครือข่ายค้ายาเสพติด ให้ขนยาเสพติดล็อตใหญ่นี้จากบริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อไปส่งให้ลูกค้าที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยมีค่าจ้าง 60,000 บาท ซึ่งจะจ่ายเงินให้เมื่อส่งยาเสพติดถึงมือลูกค้าแล้ว แต่มาถูกตำรวจจับได้ก่อน ทั้งนี้หากยาบ้าถูกส่งให้ลูกค้าที่ จ.ขอนแก่นได้ จะกระจายไปทั่วภาคตะวันออกเฉียงเหนือแน่นอน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ครั้งนี้ต่อไป