การแข่งขันการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก 2020 รายการ “ออสเตรียน กรังปรีซ์” ที่สนาม เรดบูลล์ ริง ประเทศออสเตรีย เมื่อช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งแชมป์เราทราบกันไปแล้วนั่นคือ อันเดรีย โดวิซิโอโซ นักบิดชาวอิตาเลี่ยน สังกัดดูคาติ ที่หยิบแชมป์เรซ 50 ในอาชีพ นับเฉพาะรุ่นโมโตจีพี หลังเข้าป้ายเป็นคันแรกด้วยเวลา 28 นาที 20.853 วินาที
อย่างไรก็ตามมีเหตุการณ์ที่สุดระทึกเกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย คือการชนกันระหว่าง โยฮัน ซาร์โก ทีมอวินเทีย เรซซิ่ง กับ ฟรังโก มอร์บิเดลลี ทีมปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที
ทั้งคู่กลิ้งไถลหลายตลบออกข้างสนาม ส่วนมอเตอร์ไซค์ที่ควบมานั้นยังพุ่งต่อด้วยความเร็วสูง พร้อมชนกับแบริเออร์เปลี่ยนทิศทางเข้าสนามแข่งอีกครั้ง และกำลังจะกระดอนมาปะทะกับ มาเวริค บีญาเลส สังกัดมอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า ในตำแหน่งโพลโพซิชั่น และรุ่นพี่ร่วม่ายอย่าง วาเลนติโน รอสซี
ยังดีที่ทั้งสองรายหลังควบคุมสติได้อย่างสุดยอด ประคองคันเร่งจนรอดมาได้แบบหวุดหวิด ซึ่งหลังจากนั้นมีธงแดงลงทันที ทำให้การแข่งขันต้องหยุดไป 20 นาที จากนั้นถึงกลับมาแข่งขันอีกครั้ง “เดอะ ด็อกเตอร์” รอสซี จบในอันดับ 5 เวลาตามหลังแชมป์ 5.837 วินาที ส่วน บีญาเลส เข้าที่ 10 เวลาตามหลัง 15.276 วินาที
ซาร์โก และ มอร์บิเดลลี ไม่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยดีแล้ว โดยในรายหลังมีอาการบาดเจ็บที่มือด้านขวา กับการได้รับกระแทกที่รุนแรงบริเวณศีรษะ ซึ่งต้องรอผลอย่างเป็นทางการกันต่อไป
ส่วน รอสซี ในวัย 41 ปี ดูสั่นสะเทือนอย่างเห็นได้ชัดหลังจบจากการแข่งขัน ตามการรายงานของ บีบีซี สปอร์ต สื่อดังแดนผู้ดี
ทั้งนี้ เดอะ ด็อกเตอร์ กำลังจะสิ้นสุดสัญญากับต้นสังกัดมอนสเตอร์ อีเนอร์จี้ ยามาฮ่า หลังจบฤดูกาลนี้ แน่นอนว่าเขาจะยังไม่รีไทร์ และมีโอกาสสูงที่แฟนๆ จะได้เห็นเขาลงแข่งขันในฤดูกาล 2021 ภายใต้สังกัดใหม่เปโตรนาส ยามาฮ่า
เครดิต : ไทยรัฐ