เริ่มเกมลิเวอร์พูลเขี่ยจากขวาไปซ้าย และได้มีโอกาสทักทายก่อนในนาทีที่ 7 จากจังหวะซัดตูมด้วยขวาของ จอร์จินโย ไวนัลดุม แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบหมดลุ้น ถัดจากนั้นนาทีที่ 15 ซาดิโอ มาเน ใช้อกพักบอลก่อนตอกส้นให้ โรแบร์โต ฟีร์มีโน เลี้ยงจี้เข้าหา แกรี เคฮิลล์ และปั่นด้วยขวาติดเซฟเวย์น เฮนเนสซีย์
นาทีที่ 23 เจ้าบ้านหงส์แดงมาได้ฟรีคิก หลัง จอร์แดน อายิว ไปทำฟาล์วใส่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ บริเวณกลางประตูระยะ 24 หลา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ จัดการบรรจงปั่นด้วยขวาบอลไซด์โค้งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม
ผ่านครึ่งชั่วโมง ลิเวอรร์พูล ยังโหมบุกกระหน่ำ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้ครอสบอลเข้าไปในเขตโทษ เฮนเนสซีย์ ต้องออกแรงพุ่งชกให้ไกลจากหน้าปากประตู แต่ไม่พ้นอันตราย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วอลเลย์ไปชนเสา ฟาน ไดค์ จะตามเข้ามาซ้ำแต่ถูกสกัดออกหลัง
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 8 นาที ไวนัลดุม ได้โอกาสซัดจ่อๆ อีกครั้ง จากการถวายพานมาให้ของ มาเน แต่ดันยิงหลุดกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ ต่อจากนั้น พาเลซ ได้โอกาสทักทายเป็นครั้งแรกของเกมจากการยิงไกลของ แม็กซ์ เมเยอร์ แต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล มาได้ลูกที่สองนาทีที่ 44 เริ่มจาก ฟาน ไดค์ จ่ายบอลให้ ฟาบินโญ ยกข้าม พาทริก ฟาน อานโฮลท์ ไปถึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งตามมาพักบอลด้วยอก ก่อนตะบันด้วยซ้ายตุงตาข่าย และจบครึ่งเวลาแรก
กลับมาครึ่งหลัง หงส์แดงขยับหนีเป็น 3-0 นาทีที่ 55 ไวนัลดุม เก็บบอลก่อนจ่ายต่อให้ โรเบิร์ตสัน แทงเข้ากลางสนาม ฟาบินโญ แต่งหนึ่งจังหวะ และซัดเต็มข้อระยะร่วม 30 หลา บอลพุ่งเป็นจรวด เฮนเนสซีย์ ก็หมดปัญญาเซฟ
นาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล ได้ประตูที่ 4 เมื่อ ซาลาห์ แทงทะลุจากกลางสนามให้ มาเน พาบอลเข้าเขตโทษ แล้วแปด้วยขวาเสียบมุม ซึ่งถือเป็นประตูที่ 9 สำหรับดาวยิงชาวเซเนกัลที่ซัดใส่ คริสตัล พาเลซ จากการเจอกันทั้งหมด 10 ครั้ง
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม ลิเวอร์พูล เปิดบ้านถลุง คริสตัล พาเลซ 4-0 ซึ่งหาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกพ่าย เชลซี ในคืนวันนี้ (25 มิ.ย.) ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 30 ปี ทันที เนื่องจากซิตี้จะเหลืออีกเพียง 21 แต้มให้เก็บกับอีก 7 นัดที่เหลือ แต่ตอนนี้ทัพหงส์หนีไปเป็น 23 แต้มแล้ว
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: thairath