สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ช่วยประสารงานเพื่อต่อวีซ่าให้นักเตะและสตาร์ฟโค้ชชาวต่างชาติ โดยมีการประชุมหารือเรื่องนี้เมื่อวันที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธาน
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า “เราทราบถึงอุปสรรคและข้อจำกัดที่เกิดขึ้น ด้วยสถานการณ์โควิด-19 และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับสโมสร กรณีการต่อวีซ่าให้แก่ นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาวต่างชาติ ที่ลงทะเบียนทำหน้าที่ในการแข่งขันฟุตบอล ฟุตซอล และฟุตบอลชายหาด โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การกีฬาแห่งประเทศไทย และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 จากการเดินทาง”
“โดยปกติแล้ว นักกีฬาต่างชาติที่เข้ามาค้าแข้งในประเทศไทยจะต้องถือวีซ่าประเภททำงาน (NON IMMIGRANT-B VISA) ที่มีการต่ออายุทุกปี โดยจะต้องเดินทางไปที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่ตนเองทำงานอยู่ แต่ในกรณีที่วีซ่าหมดอายุ หรือถือวีซ่าประเภทอื่น จะต้องเดินทางออกไปขอต่อวีซ่าเพื่อการทำงาน (NON IMMIGRANT-B VISA) ที่สถานทูตไทยในต่างประเทศนั้น เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะนี้ทำให้การเดินทางเกิดความยากลำบาก อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการที่จะสัมผัสหรือติดเชื้อได้ ข้อจำกัดในด้านการเดินทาง จำนวนเที่ยวบิน และเงื่อนไขต่างๆ ในการเดินทางออกนอกประเทศ”
“ในการนี้ สมาคมฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการประสานงานกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขยายวีซ่าการทำงาน (NON IMMIGRANT-B VISA) ให้แก่บุคลากรฟุตบอลสามารถทำงานอยู่ในประเทศไทยในช่วงวิกฤติโควิด-19 นี้ โดยจะมีการแจ้งขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับสโมสรสมาชิกต่อไป” นายกสมาคมฯ กล่าว.