เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 17 อาร์เซนอล เกือบขึ้นนำ จากจังหวะที่ ดาวิด ลุยซ์ จ่ายบอลทะลุแนวรับให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง หลุดไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ เอแดร์สัน เซฟไว้ได้
จากนั้นนาทีที่ 19 อาร์เซนอล ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ นิโคลัส เปเป เปิดบอลจากฝั่งขวาไปที่เสาไกล ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ทิ้งตัวสไลด์บอลเข้าไปตุงตาข่าย
ถึงนาทีที่ 41 โอกาสของอาร์เซนอล เมื่อ ดานี เซบายอส เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ ซโคดราน มุสตาฟี ได้โอกาสโหม่ง บอลจะมุดเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ เอแดร์สัน บินปัดออกไปได้
จบครึ่งแรก อาร์เซนอล นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง นาทีที่ 48 แมนฯ ซิตี้ ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ ไหลบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แต่งหนึ่งจังหวะแล้วซัดด้วยขวา บอลข้ามคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง
จากนั้นนาทีที่ 49 โอกาสของซิตี้อีกแล้ว เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลจี้หาเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเรียดเข้ากลาง ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงหลุดเสาสองออกไป
ถัดมา 5 นาที ซิตี้ได้อีก เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลขึ้นมาทางขวาให้ ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายหวังยัดเสาแรก แต่ เอมิเลียโน มาร์ติเนซ เซฟไว้ได้
และในนาทีที่ 62 แมนฯ ซิตี้ ได้ฟรีคิกระยะหวังผล และเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ซัดด้วยขวา บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
ถึงนาทีที่ 71 อารืเซนอล หนีเป็น 2-0 จากจังหวะที่ คีแรน เทียร์นีย์ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายแดนตัวเองขึ้นมาให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ใช้ความเร็วกระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงลอดขา เอแดร์สัน เข้าไปไม่พลาด
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม อาร์เซนอล ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิส ไปรอเจอกับผู้ชระระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี ต่อไป
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: thairath
