กรองปราบลุยจับแก๊งโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”

หลังจากมีการตรวจสอบเอาผิดโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยทุจริต ฉ้อโกงเงินของรัฐจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 55 จุด ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต แบ่งเป็นเป้าหมายในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ 41 จุด และ จ.ภูเก็ต 14 จุด

 

 

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 27 มกราคม 2564 พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าชุดปฏิบัติการ กก.3,ม5 บก.ป. และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ เปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดยกระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 55 จุด ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต แบ่งเป็นเป้าหมายในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ 41 จุด และ จ.ภูเก็ต 14 จุด

 



สำหรับปฏิบัติการครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. ดำเนินการตรวจสอบเอาผิดโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ที่มีพฤติกรรมต้องสงสัยทุจริต ฉ้อโกงเงินของรัฐจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเป็นโครงการที่ภาครัฐที่จัดทำขึ้นมาเพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วงไวรัสโควิด-19 จนกระทั่งพบว่าผู้ประกอบการเหล่านี้มีการกระทำผิดโดยการอาศัยช่องว่างทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นและหมายจับผู้กระทำผิด ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จในประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศ” จนนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าว



โดยหลังจากนี้เวลาประมาณ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีการเปิดแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดผลการเปิดปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำผิดครั้งนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ