เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 10 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านในตำบลหนองปรือ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ว่ามีชาวบ้านที่กินขนมจีบที่ซื้อจากแม่ค้าเร่ขี่จักรยานยนต์มาขายเกือบ 20 ราย เกิดอาการถ่ายท้องอยู่รุนแรงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายแห่ง และมีคุณยายวัย 66 ปี ท้องเสียอย่างรุนแรงและเสียชีวิตแล้ว 1 รายญาติได้นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่ วัดหนองปรือ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ได้พบว่า ญาติ ๆ กำลังประคองตัว นาย ประเสริฐ อ้นเจริญ อายุ 73 ปี ซึ่งขออนุญาตจากทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เดินทางมารดน้ำศพ นาง ธนู ช้างภู่พะงางาม อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคู่ใจ ที่จากไปด้วยอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของลูกหลานและญาติที่เดินทางมาร่วมน้ำศพ
นายประเสริฐ อ้นเจริญ อายุ 73 ปี สามีของนางธนู ผู้เสียชีวิต ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบาลพลี ด้วยอาการเดียวกันได้ขออนุญาตหมอออกมาจากโรงพยาบาลมาชั่วคราวเพื่อรดน้ำศพผู้เป็นภรรยา ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันพุทธ ที่ผ่านมาในขณะที่ตนและภรรยาได้เดินทางไปเก็บผักที่แปลงผัก ได้มีแม่ค้าขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาขายของกินประเภทขนมจีบ ซาลาเปา ก๋วยเตี๋ยวหลอด และของกินอื่น ๆ ที่บรรจุอยู่ในถุงหูหิ้วแขวนข้างรถขี่เข้ามาขาย ภรรยาตนได้ซื้อขนมจีบเอามากินที่บ้านโดยแบ่งให้ลูกหลานในบ้านกินกันหลายคน มีเพียงลูกสาวเพียงคนเดียวที่ไม่ได้กิน ซึ่งขณะกินไปในครั้งแรกทุกอย่างก็ยังเป็นปกติดีไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากที่เข้านอนจนถึงกลางดึกประมาณเที่ยงคืนเศษได้เกิดอาการถ่ายท้องอย่างรุนแรงเรียกว่าไหลเป็นน้ำเลย นอกจากตนแล้วคนอื่น ๆ ทั้งลูกหลานและภรรยาของตนที่กินขนมจีบเข้าไปทุกคนเกิดอาการถ่ายท้องอย่างรุนแรง ส่วนหลานสาวมีอาการเวียนหัวและอาเจียนร่วมด้วย แต่ก็ต้องรอจนกระทั่งเช้าลูกสาวจึงได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังแพทย์ได้ตรวจรักษาและก็ให้ยาและให้กลับบ้าน ซึ่งตอนนั้นอาการก็ยังไม่ดีขึ้นเพียงแต่ทุเลาลงเท่านั้น แต่พอกลับมาบ้านก็ยังถ่ายท้องอยู่จนกระทั่งอีกวันหนึ่งอาการไม่ดีขึ้นลูกสาวจึงพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลบางพลี อีกครั้งแพทย์ได้ให้ยาฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในช่วงบ่ายของวานนี้ลูกสาวโทรมาบอกว่าภรรยาตนเสียชีวิตแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งไปชันสูจนที่สถาบันนิติเวช แต่ผลชันสูจนเบื้องต้นกลับระบุว่าหัวใจล้มเหลว ในวันนี้ตนจึงขออนุญาตหมอออกมาจากโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อมาดูหน้าภรรยาเป็นครั้งสุดท้าย
เด็กหญิง เอ (นามสมมุติ ) อายุ 13 ปี หนึ่งในผู้ป่วยได้เล่าว่า ในวันนั้นตนเองรับประทานขนมจีบเข้าไปทั้งหมด 3 ลูกในช่วงเย็น แต่พอตกกลางดึกมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและอาเจียน และมีอาการถ่ายท้อง แต่เนื่องเป็นช่วงกลางดึก ประกอบกับอยู่ในช่วงเคอร์ฟิว จึงไม่ได้ไปโรงพยาบาล ทนถ่ายท้องจนกระทั่งเช้าแม่จึงได้พาตนไปหาหมอที่โรงพยาบาล หลังแพทย์ดูอาการและตรวจรักษาได้ออกมาระบุว่าสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษอย่างรุนแรง โดยแพทย์ได้ทำการฉีดยาให้จนอาการเริ่มดีขึ้นจึงได้ให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน
นางสาว อรุณี อ้นเจริญ บุตรสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่าสาเหตุของการเสียชีวิตของคุณแม่ในครั้งนี้มั่นใจมาจากการที่คุณแม่และคนในครอบครัวหลายคนได้ซื้อขนมจีบจากแม่ค้ารถเร่รายหนึ่งมารับประทาน เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของบ้านพักของตนเองมี พ่อ แม่ และหลาน ที่รับประทานขนมจีบเจ้านี้ ในช่วงบ่ายจากนั้นพอตกดึกทุกคนเริ่มมีอาการถ่ายเหลวตลอดเวลาโดยไม่มีอาการปวดหรือเกรงท้องแต่อย่างใด แต่จะถ่ายตลอดเวลา จึงพาไปส่งโรงพยาบาลสิรินธร เมื่อไปถึงก็ยังไม่อหยุดถ่าย แต่ทางโรงพยาบาลได้ฉีดยาและให้พักดูอาการประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนจะออกมาบอกว่าสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษให้คนไข้กลับมาพักที่บ้านและห้ามทานยาหยุดถ่ายใด ให้ถ่ายออกไปให้หมดเชื้อจะได้หมด ซึ่งหลังจากพาแม่และพ่อกลับมาบ้านก็พบว่าอาการไม่ดีขึ้นจนกระทั่งรุ่งเช้าเห็นแม่ฟุบหมดสติขณะกำลังจะคลานไปขอความช่วยเหลือจากพ่อจึงรีบแจ้งกู้ชีพให้มารับและพบว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อก็อาการยังหน้าเป็นห่วง ขนาดแถวบ้านยัง 20 กว่ารายแล้ว และที่เขาขายมาตลอดทางละจะมีใครเป็นอีกหรือไม่เราก็ไม่รู้ โดยมีญาติของผู้ป่วยรายหนึ่งที่หลานที่ยังเล็กอยู่กินน้ำจิ่มของขนมจีบเข้าไปและเกิดอาการชักและถ่ายท้องเช่นกัน ได้เก็บน้ำจิ้ม ไปให้หมอตรวจพบว่ามีสารอันตรายร้ายแรงผสมอยู่ ซึ่งเป็นสารอะไรตนก็ไม่ทราบเพราะไม่ได้ถามรายละเอียดมา ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตัวคนขายมาสอบถามหน่อย คือมันฆ่าชีวิตแม่ของเราไป
ส่วนทางด้านน้องชายของผู้ตาย ได้ออกมาระบุว่า ในวันนั้นหลายคนที่มาซื้อของแม่ค้าคนนี้แต่ไม่เป็นอะไรเพราะซื้ออย่างอื่นไม่ได้ซื้อขนมจีบ แต่คนที่ซื้อขนมจีบไปกินเป็นลักษณะเดียวกันหมดเลย ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากการใส่สารกันบูดหรือเปล่าหรือว่าช่วงนี้อากาศมันร้อนหรือมันอาจจะมีพิษ เพราะหลานที่บ้านกินแต่ขนมจีบเปล่าไม่ได้กินน้ำจิ้มก็เป็นเหมือนกันถ่ายท้องเหมือนกันหมดเลย ส่วนคนที่ตายอายุมากและภูมิต้านทานก็น้อยพอถ่ายมาก ๆ ทำให้เสียน้ำเยอะและเราก็ไม่รู้ว่าเชื้อตัวนี้มันเข้าไปในกระแสเลือดหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ แต่เวลาไปชันสูตรศพทางโรงพยาบาลเขาต้องบอกความจริงให้เรารู้ ไม่ใช่อะไรก็หัวใจล้มเหลวซึ่งมันไม่ใช่