พ่อเข้าใจผิด คิดว่าลูกตาย เพราะสภาพศพเละจนจำหน้าไม่ได้ แต่พ่อจำรอยสักได้ จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นลูกชาย สุดท้ายลูกชายกลับขี่รถจยย.พ่วงข้างเข้ามาในงานที่กำลังจัดงานศพอยู่ จึงเข้าไปสอบถามและลูบคลำลูกชายพบว่า เป็นลูกชายจริงๆไม่ใช่ผี จึงเชื่อว่าน่าจะเอาศพมาผิด
วันที่ 2 มิ.ย.64 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านซาด ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีความวุ่นวายเกิดขึ้น เนื่องจากมีการจัดงานศพผิดตัว และอยากให้เป็นกรณีศึกษากับคนทั่วไป จากการตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 51 บ้านซาด หมู่ 7 ต.สระบัว อ.แคนดง พบมีพระสงฆ์กำลังสวดภายในงาน มีการกางเต็นท์ มีแม่ครัวกำลังประกอบอาหารกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางรอยยิ้มของคนที่มาร่วมงาน
สอบถามทราบว่า พระที่กำลังสวดอยู่นั้น เพิ่งเปลี่ยนบทสวด จากการสวดงานศพมาเป็นงานทำบุญต่ออายุให้กับ นายสงัด หรือล้าน สายวัน อายุ 38 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนช่วงกลางคืนมาถึงตอนเช้า นายล้าน เป็นคนที่พ่อแม่เอารูปภาพมาตั้งหน้าโลงศพ เพื่อจัดงานศพให้
นายไพรัตน์ สายวัน อายุ 61 ปี พ่อของนายล้าน เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. (1 มิ.ย.) ของคืนที่ผ่านมา มีชาวบ้านมาแจ้งตนว่า ให้ไปดูศพคนถูกรถชนตายที่ถนนสายแคนดง-สตึก เพราะมีรูปร่างคล้ายกับ นายล้าน ลูกชาย ประกอบกับลูกชายได้หายออกจากบ้านไปได้ 2 วัน และลูกชายซึ่งเป็นคนชอบดื่มเหล้า มักจะชอบเดินริมถนนเวลาเมา แต่เมื่อไปดูศพไม่มีเค้าโคลงของใบหน้าเหลืออยู่ เพราะถูกรถทับแหลกเหลว ตำรวจจึงพยายามให้ดูอย่างละเอียดถึงตำหนิ เมื่อเห็นรอยสักที่แขนซ้าย จึงคิดว่าน่าจะเป็นลูกชาย จึงไปติดต่อขอรับศพที่โรงพยาบาลแคนดงตามขั้นตอน
จากนั้นผู้ใหญ่บ้านได้ดำเนินการแทนทั้งหมด ตั้งแต่การยืมโลงเย็น การเตรียมเต็นท์รับแขก การเตรียมวัตถุดิบทำอาหารเลี้ยงแขก รุ่งเช้าได้นิมนต์พระมาสวดที่งาน จากนั้นได้เดินทางไปแจ้งตายที่อำเภอแคนดง เพื่อนำเอาหลักฐานไปขอรับเงินฌาปนกิจศพประจำตำบล เบื้องต้นได้มาประมาณ 70,000 บาท เอาไปซื้อหมู และเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ต่อมาเวลาประมาณ 11.00 ได้มีชาวบ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง มาขอดูศพเพราะเกรงว่าศพในโลงจะเป็นศพญาติของเขาที่หายตัวไปเช่นกัน ตนไม่ให้ดูเพราะหมอสั่งไว้ว่าไม่ให้เปิด เพราะสภาพศพไม่อยู่ในสภาพปกติ คนกลุ่มนั้นได้กลับไป
นายไพรัตน์ เล่าต่อว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ชาวบ้านที่อยู่ในงานต่างแตกตื่นอลม่านกันทั้งงาน บางคนวิ่งหนี เพราะเห็นนายล้าน ขี่รถจยย.พ่วงข้างเข้ามาในงานที่กำลังจัดงานศพอยู่ จึงเข้าไปสอบถามและลูบคลำลูกชายพบว่า เป็นลูกชายจริงๆไม่ใช่ผี จึงเชื่อว่าน่าจะเอาศพมาผิด จึงแจ้งโรงพยาบาลให้ไปรับศพกลับไป แล้วเปลี่ยนจากงานศพมาเป็นงานทำบุญต่ออายุให้ลูกชาย
ขณะที่ นายสงัด หรือล้าน เล่าว่า ตนออกบ้านไปได้ 2 วัน เพราะไปเล่นกับเพื่อน เมื่อเข้าบ้านเห็นมีการจัดงาน ก็คิดว่าไม่พ่อหรือแม่น่าจะเสียชีวิต แต่เมื่อมาดูรูปภาพที่ตั้งอยู่หน้าโลงศพกลับพบว่าเป็นภาพของตน เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าให้เรื่องร้ายกลายเป็นดี จะได้หมดเคราะห์หมดโศกไป
ด้าน นางปฐม พูลวงศ์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้ไปตามเอาศพภายในงาน เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีชาวบ้านถ่ายภาพศพคนถูกรถชนลงเฟชบุ๊ก เมื่อภาพรู้ทันทีว่าเป็น นายปองพล หรืออ๊อด พูลวงศ์ อายุ 35 ปี เป็นน้องชายของตัวเองที่หายตัวไปเช่นเดียวกัน เมื่อไปสอบถามโรงพยาบาลแคนดง ได้คำตอบว่ามีคนไปรับศพมาแล้ว จึงขอไปดูศพ พร้อมกับแจ้งตำหนิให้กับหมอทราบว่า มีแผลเป็นที่มือ และนิ้วเท้าด้วน โดยหมอแจ้งว่าตรงกับคำบอกเล่า จึงรับศพน้องชายไปฌาปนกิจศพที่บ้านเกิด เหตุการณ์นี้ ถือเป็นเรื่องอลเวง โชคดีที่รู้ทันและไปตามก่อนที่จะมีการฌาปนกิจศพ
ขอบคุณ ข่าวสด/nationtv/ไทยรัฐ