จับเจ้าของเต็นท์รถ ทวงหนี้โหด

เมื่อวันที่วันที่ 21 ตุลาคม 2563  เวลาประมาณ 11.00 น. พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานีและทีม ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหา 2 คน คือนายรัฐวิทย์ อินภิวาส อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62/49 ม.2 ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และนายนที เกษสุวรรณ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 ม.1 ต.ตำหรุ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีแดง 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กษ-3626 นครสวรรค์

สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 เวลาประมาณ 22.50 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูบางหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากนายณฐนนท วิริยะก้องเกียรติ ผู้เสียหาย อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 736 ม.18 ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยดเอ็ด ว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ต.ค.63 ได้ถูกคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 4 คน ใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตู สีแดง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ (ป้ายแดง) เป็นยานพาหนะ โดยใช้อาวุธปืนจี้บังคับข่มขู่ให้ขึ้นรถ และใช้ถุงพลาสติกสีดำคลุมหัวตน มัดมือไพล่หลัง มาจาก อ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี จนกระทั่งเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มชายทั้งหมดพาผู้เสียหายเดินทางมาถึงเต็นท์ขายรถบรรทุก ตั้งอยู่เลขที่ 7 ถนนกาญจนาภิเษก(ขาออก) ม.12 ต.คูบางหลวง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เปิดถุงคลุมหัวออก ผู้เสียหายจึงเห็นหน้านายรัฐวิทย์ อินภิวาส เจ้าของเต็นท์ขายรถ ซึ่งรู้จักกับผู้เสียหายเนื่องจากทำธุรกิจเป็นนายหน้าขายรถให้กับนายรัฐวิทย์

 

จากนั้น นายรัฐวิทย์ อ้างว่าผู้เสียหายเป็นหนี้ค่าขายรถแล้วไม่นำมาคืนให้ นายรัฐวิทย์ จึงสั่งการให้ กลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายร่างกายจนร่างกายบอบช้ำ และบังคับปลดเอาทรัพย์สินที่ติดตัว อาทิ สร้อยคอทองคำ แหวน นาฬิกา รวม 9 รายการ และโอนเงินสดรวมทั้งหมดมูลค่าประมาณ 847,000 บาท จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.00 น. ของวันที่ 14 ต.ค. 63 กลุ่มคนร้ายได้พาผู้เสียหายไปปล่อยตัวแถวถนนรามอินทรา จากนั้น ผู้เสียหายจึงติดต่อพี่ชายแล้วเดินทางไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัว ก่อนเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คูบางหลวง เพื่อร้องทุกข์ และให้ติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรวบรวมหลักฐานทั้งจากการสอบสวนพยานและจากกล้องวงจรปิด เพื่อขออนุมัติหมายศาล ในการติดตามตัวคนร้าย

 

ต่อมา วันที่ 20 ต.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี และชุดสืบสวน สภ.คูบางหลวง สามารถจับกุม นายรัฐวิทย์ อินภิวาส และ นายนที เกษสุวรรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อหา “ปลันทรัพย์ กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนโดยแสดงความทารุณจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่
กายหรือจิตใจ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีหตุอันควรหรือโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่ามาทวงตามเงินค่ารถที่ทำธุรกิจ และติดค้างกันไว้ ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนอยู่ระหว่างติดตามการจับกุม

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ