3 รุม 1 ! กลุ่มวัยรุ่นบุกทำร้ายเจ้าของโรงงาน ฉุนถูกเตือนฉี่ใส่กำแพง (คลิป)

(11 มิ.ย.63) คลิปภาพวงจรปิดบันทึกขณะเกิดเหตุชายเสื้อดำเจ้าของบริษัททำเฟอร์นิเจอร์ วัย 33 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่น บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงในบริษัท และใช้อาวุธปืนข่มขู่ และเกิดการชกต่อยกันชุลมุน ทำให้ทรัพย์สินภายในบริษัทได้รับความเสียหาย ก่อนที่เพื่อนของกลุ่มที่ก่อเหตุจะมาพาตัวชายทั้ง 2 คนออกไป แต่บริเวณหน้าบริษัทยังมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดประมาณ 7 คน เข้ามายืนรุมที่หน้าบ้าน โดยมีการตะโกนต่อว่า ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดจะแยกย้ายกันไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ภายในบริษัททำเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งในซอยด่านสำโรง 60 ตำบลด่านสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ที่ 10 มิถุนายน 2563 นายแบรนด์ โสรัฐ ไบเยอร์ อายุ 33 ปี หนุ่มเจ้าของบริษัททำเฟอร์นิเจอร์ ผู้บาดเจ็บและผู้เสียหาย พร้อมด้วยแฟนสาวได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ในวันที่เกิดเหตุได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้แล้วครั้งหนึ่ง ที่ สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ โดยนายแบรนด์ โสรัฐ ไบเยอร์ ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีบ้านอยู่ด้านหลังโรงงานของตน ที่นั่งดื่มสุรากันอยู่และเดินมาปัสสาวะที่บริเวณกำแพงหลังโรงงานของตน ตนจึงได้เดินเข้าไปถามว่าทำไมมาปัสสาวะแบบนี้ ทำไมไม่ไปเข้าห้องน้ำ เพราะมันไม่ได้ไกล ทางเพื่อนของคนที่ปัสสาวะก็บอกว่าจะเอาน้ำมาราดล้างให้ ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้ว่าอะไร

จนกระทั่งตกเย็นขณะที่ตนและคนงานกำลังปิดประตูบริษัท กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มเดิมที่อยู่ในอาการมึนเมาได้ขี่รถจักรยานยนต์มาหาเรื่องที่หน้าบริษัทอีกและชักอาวุธปืนแบบลูกโม่ออกมาตกหน้าตนด้วยปืนและข่มขู่ก่อนเข้ารุมทำร้ายร่างกายตนตามคลิปที่กล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้

ขณะที่ พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รอง ผกก.สอบสวน สภ.สำโรงเหนือ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำของผู้เสียหาย พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่า ผู้ก่อเหตุที่เข้าไปรุมทำร้ายผู้เสียหาย มีด้วยกัน 3 คน ประกอบด้วย นายวันชัย อายุ 24 ปี นายภมร อายุ 36 ปี และ นายอ๊อด อายุ 36 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะติดตามจับกุมตัวมาทำการสอบสวน ในชั้นการสอบสวนผู้ก่อเหตุทั้งหมดได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง เนื่องจากเข้าใจว่านายแบรนด์ จะเข้ามาหาเรื่องเนื่องจากพูดจาไม่ดี จึงได้ยกพวกไปรุมทำร้ายตามคลิปที่ปรากฏ ส่วนอาวุธปืนนั้นตนไม่รู้ไม่เห็นว่าเป็นของใครและใครเป็นคนถือ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ และร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณsanook