เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.56 น. พ.ต.ท.ชนะ ศรีวิชัย รองผกก.(สอบสวน) สภ.ดอกคำใต้ รับแจ้งเหตุยิงกันเสียชีวิต ภายในบริเวณลานตากข้าวท่าข้าวโชคอุดม 3 ถนนดอกคำใต้-จุน หมู่ 3 ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา แก่นจันทร์ รอง ผบก. ภ.จว.พะเยา พ.ต.อ.พีรพัทธ บุญพุทธ ผกก.สภ.ดอกคำใต้ , พิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ดอกคำใต้ และชุดกู้ภัยคุณธรรมแสงทองดอกคำใต้
เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้ พบร่างของ นายธรรมนิตย์ เปรมประเสริฐ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 121 หมู่ 1 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน ในสภาพนอนคว่ำหน้า ถูกยิงด้วยอาวุธลูกซองสั้น บริเวณศีรษะสมองแตกกระจายเลือดไหลนองพื้น และพบปืนลูกซองสั้นตกอยู่ใกล้กับศพประมาณ 2 เมตร
ภายหลังทราบตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายสุพจน์ ธรรมปัญญา อายุ 58 ปี อาชีพเกษตรกร บ้านเลขที่ 198 หมู่ 1 ตำบลดอกคำใต้ อำเภอดอกคำใต้ จ.พะเยา ถูกจับกุมตัวได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน จากการสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่าผู้ก่อเหตุ ไม่พอใจที่ผู้ตายประเมินราคาข้าวต่ำกว่าราคาที่เคยขายได้ เนื่องจากหักค่าความชื้นไม่ได้มาตรฐาน จึงมีอารมณ์โกรธ ประกอบกับนายสุพจน์เมาสุรา จึงใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงที่ศีรษะของผู้ตาย หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและพกพาอาวุธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะหมู่บ้านโดยผิดกฏหมาย
วันที่ 26 พ.ย. 2563 เวลา 14.30 น. ที่วัดเหมืองจี้หลวง หมู่ 1 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน สถานที่บำเพ็ญกุศลศพของนายธรรมนิตย์ เปรมประเสริฐ อายุ 34 ปี ที่ถูกชาวนายิงเสียชีวิตที่ลานตากข้าวแห่งหนึ่งใน ตำบลดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้ามีญาติ และชาวบ้าน มาช่วยกันจัดเตรียมงาน โดยศพของผู้ตายมาถึงวัดเมื่อตีสองที่ผ่านมา
จากการสอบถาม นายเสริม ชัยยศ พ่อของผู้ตาย ได้เล่าว่า ลูกชายกำลังจะแต่งงานในต้นปีหน้า ทำให้ยิ่งทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเท่าที่ตนเองทราบก่อนที่จะเกิดเหตุเย็นวันที่ 24 พ.ย. ตอนนั้น ผู้ก่อเหตุได้มาขายข้าวให้กับจุดรับซื้อและปรากฏว่าข้าวมีความชื้นมาก ลูกชาย จึงให้ราคาตามที่บริษัทกำหนด แต่ผู้ก่อเหตุไม่พอใจและได้กลับไปที่บ้านดื่มสุราหนัก และพยามที่จะมายิงลูกชายตนในคืนนั้น แต่ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้ห้ามไว้ และนำกุญแจรถ จยย.ไปซ่อนจนกระทั่ง มาก่อเหตุดังกล่าวในช่วงสายของวันที่ 25 พ.ย.63 ซึ่งตอนนั้นลูกชายตนเองกำลังทำงานอยู่และหันหลัง จึงถูกยิงเสียชีวิตโดยที่ไม่รู้ตัว หากตำรวจจะนำผู้ต้องหามาขอขมา บอกได้คำเดียวว่าไม่ต้องมา เพราะขอขมายังไงลูกชายก็ไม่ฟิ้นและยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนางสุภาพร พรหมพฤกษ์ แม่ของผู้ตาย เล่าว่า คืนก่อนที่ลูกชายจะถูกยิงลูกชายได้โพสต์เฟชบุ๊กทำนองตัดพ้อว่า เขาเป็นแค่ลูกจ้าง ต้องทำตามที่นายจ้างสั่ง ซึ่งตนก็ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุร้าย จนกระทั่งแฟนสาวของลูกชายโทรมาบอกว่า ลูกถูกชาวนายิงตาย ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดว่าลูกชายจะถูกยิงแบบไร้เหตุผลเช่นนี้