จากกรณีที่มีสาวคนหนึ่งได้ออกมาเผยเรื่องราวเป็นคลิปวิดีโอที่เจ้าตัวได้สนทนากับแม่ค้าร้านขายอาหารอีสาน ในถนนคนเดินเทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งจัดขายสินค้าช่วงเย็นวันเสาร์และอาทิตย์ รอบสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง ต.ในเมือง โดยได้ระบุข้อความว่า
“เรื่องมีอยู่ว่าร้านนี้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเราสั่งจุ๊เนื้อราคาป้าย 100 บาท สแกนจ่ายคนละครึ่งก็จะเหลือ 50 บาท แต่ทางร้านกดในเครื่องแม่ค้าไป 110 บาท และจ่ายเกินไป 5 บาท เราขอเงินคืนโดยจะจ่ายเป็นเงินสดแทน ทางเราก็ถามแม่ค้าว่า ทำไมคนละครึ่งต้องบวกเพิ่ม 10 บาท แต่แม่ค้าตอบกลับมาว่า แม่ค้าต้องจ่ายค่าเน็ตเดือนละ 400 บาท”
น.ส.อรนภา เปิดเผยต่อว่า เรื่องเงิน 10 บาท ตนไม่ติดใจ แต่ตนคิดว่าไม่ยุติธรรม ลูกค้าเป็นผู้บริโภคก็ต้องใช้อินเตอร์เน็ตเหมือนกัน ทำไมต้องมาบวกเพิ่มและราคาป้ายหน้าร้านก็ไม่มีระบุไว้ว่า ต้องบวกเพิ่มหากจ่ายค่าสินค้าตามโครงการคนละครึ่ง และที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้นั้น ไม่ต้องการเอาเงินคืน แต่ต้องการเตือนให้ทุกคนทราบว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย
ล่าสุด วันที่ 1 ธันวาคม 2563 นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี ได้เรียก แม่ค้ารายดังกล่าว อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าที่ตกเป็นข่าวมาทำความเข้าใจ และจะทำการเปรียบเทียบปรับฐานจำหน่ายสินค้าเกินราคาป้ายที่ติดแสดงไว้ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นรถเร่แผงลอยมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท เบื้องต้นได้พูดคุยทำความเข้าใจแล้ว ก็ยินดีให้ทำการปรับในบ่ายวันนี้
ส่วนการถอนออกจากโครงการคนละครึ่ง เพราะทำผิดเงื่อนไขนั้น จะพูดทำความเข้าใจให้แม่ค้าขอถอนตัวเองออกจากโครงการกับธนาคารกรุงไทย (มหาชน) จำกัด พร้อมทำบันทึกแนบท้ายแจ้งไปยังธนาคารทราบถึงสาเหตุที่ต้องให้ถอนตัวออกจากโครงการด้วย