เป็นประเด็นมาหลายวันกับดราม่าชาบู ที่มีลูกค้าท่านหนึ่งไปทานและโดนทางร้านเรียกเก็บเงินเพิ่มโดยอ้างว่าลูกค้าท่านนี้กินเนื้อ และกุ้งเป็นจำนวนมาก ทำให้ร้านไม่ได้กำไร และเป็นเหตุให้ลูกค้าท่านนี้โพสถึงเรื่องราวดังกล่าว และทางร้านก็ออกมาโต้ตอบโพสดังกล่าว จึงทำให้กลายเป็นกระแสดราม่า และยังติดเทรนทวิตเตอร์อีกด้วย
ล่าสุด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 10 ก.ย. นายณัฏฐ์เมธี ธนกิตต์วุฒิกุล ได้เปิดใจกับ สื่อมวลชน ถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า
นายณัฏฐ์เมธี กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนไปทานบุฟเฟ่ต์ร้านชาบูนางใน สาขาพระรามเก้า 43 เมื่อไปถึง ก็สั่ง เนื้อ 6 ถาด ซึ่งน่าจะเป็นส่วนของเนื้อน่องลาย กุ้ง 2 ถาด วุ้นเส้น เห็ดเข็มทอง และไข่ไก่ จากนั้น ตนก็นั่งกินไปตามปกติ จนกระทั่งเจ้าของร้านก็เดินเข้ามาใกล้ๆ โต๊ะ ตนเลยสั่งเห็ดเข็มทองเพิ่มหน่อย
แต่ว่า เจ้าของร้านบอกว่า ลูกค้าจะต้องสั่งผัก สั่งอย่างอื่นด้วยนะคะ ไม่ใช่สั่งแต่เนื้อกับกุ้งอย่างเดียว ตนเลยถามไปว่า มันหมายความว่ายังไง แล้วจากนั้น เจ้าของร้านก็ขึ้นเสียงดังใส่ บอกว่า ถ้าเกิดจะสั่งเนื้อกับกุ้งอย่างเดียว แบบนี้ร้านขาดทุน สิ่งที่เรากินไป ทางร้านไม่ได้กำไรจากเราเลย แล้วค่าจ้างพนักงานก็ไม่ได้ ถ้าหากมาครั้งหน้า จะขอเก็บเงินเพิ่ม แต่ไม่ได้บอกว่าเท่าไหร่ ตนก็เลยงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรา แล้วเจ้าของร้านก็สะบัดแล้วเดินออกไปเลย
นายณัฏฐ์เมธี กล่าวต่อว่า พอตนออกจากร้านมา ตนก็ไปกดอันไลค์ออก แต่ทางร้านก็ส่งมาให้กลับไปไลค์เพจอีกรอบ ตนก็เลยไปรีวิวเพิ่ม ไม่แนะนำร้านนี้ เพราะอะไร เสียความรู้สึก ทานร้านนี้ทานบ่อยแล้ว จากนั้นเจ้าของร้านมาตอบในคอมเม้น บอกว่า ลูกค้าควรจะกินหลากหลาย ไม่ได้สั่งแต่เนื้อ แต่กุ้งอย่างเดียว แล้วมากขู่เราว่า จะดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งตลอด 3 ปีที่ไปทาน ก็ทานแบบนี้เป็นประจำ ก็เพิ่งจะมีปัญหาครั้งนี้
“เรื่องนี้ผมงงมาก เราเป็นลูกค้าประจำที่มาทานร้านนี้ได้ 3 ปีแล้ว ทุกครั้งที่ไปทาน พนักงานร้านจะรู้เลยว่า ผมกินอะไรบ้าง แล้วเราไม่เคยกินเหลือเลย ถ้าเจ้าของร้านทำแบบนี้ ตนก็จะแจ้ง สคบ. เลย ซึ่งตอนนี้ แจ้งเรียบร้อยแล้ว ทาง สคบ. ก็บอกว่า ให้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไป” นอกจากนี้ ตนก็ปรึกษาทนายความส่วนตัวแล้วด้วย เบื้องต้น ตนได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่ สน.หัวหมาก
อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะขอโทษทางร้านชาบู สาขาอื่นด้วย ที่ทำให้ได้รับผลกระทบไปด้วย จึงอยากชี้แจงว่า ร้านไม่ได้เป็นเหมือนกันทุกร้าน