ดราม่าสนั่น! ทิดไพรวัลย์ ประกาศลาออกกลางรายการใหม่ของน้าเน็ก หลังชาวเน็ตคอมเมนต์เพจ ไม่ต้องการให้อดีตพระไพรวัลย์ ร่วมแจมเป็นพิธีกร จนต้องขอเคลียร์ใจกลางไลฟ์ ด้านทิดสมปองโพสต์เตือนสติหลังเผชิญดราม่าต่อเนื่อง น้าเน็ก เปิดใจเคลียร์ดราม่า ถือว่าคุณชนะ ขอโทษ ไพรวัลย์ สำหรับวันที่แย่ ลั่นไม่ใช่เอาใครมาสับในรายการ
เมื่อวันที่ 28 มกราคม ในรายการ “นินทาประเทศไทย” ที่เผยแพร่ผ่านช่องออนไลน์ Nanake555 ของ ‘น้าเน็ก-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา’ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเพจ Nanake 555 ได้ออกมาโพสต์ข้อความ #นินทาประเทศไทย วันนี้ 1 ทุ่มตรง มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเทศไทยในแบบสร้างสรรค์กันนะฮะ จากนั้นได้เกิดกระแสดราม่า เมื่อมีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊กจำนวนหนึ่งเข้ามาแสดงความเห็นให้ถอด นายไพรวรรณ วรรณบุตร หรือทิดไพรวัลย์ อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวรรโณ ออกจากพิธีกรรายการ
กระทั่งเมื่อถึงเวลาไลฟ์สด น้าเน็ก ได้มีการยกประเด็นดังกล่าว มาพูดคุยกับนายไพรวัลย์ ทำอดีตพระไพรวัลย์ได้ ประกาศลาออกกลางรายการ
ด้าน นารากร ติยานนท์ พิธีกรชื่อดังได้โพสต์ข้อความสรุปเหตุการณ์ว่า เมื่อทิดเอก “ลาออก”กลางรายการ นินทาประเทศไทย เป็นเหตุการณ์ที่น่าสนใจ จะสรุปให้ฟังเป็นข้อๆนะ
1) รายการ นินทาประเทศไทย เป็นของน้าเน็ก ในเพจ Nanake555 มีพิธีกร 4 คน
2) ทิดเอก หรือ อดีตพระมหาไพรวัลย์ หรือปัจจุบันชาวโซเชียลเรียกว่า “แพรวัลย์” เป็นหนึ่งในพิธีกร
3) รายการวันนี้น้าเน็กนำคอมเมนต์ของผู้ชมที่กระหน่ำเข้ามาในเพจ กว่า 4-5 พันคอมเมนต์มาถามทิดเอก เริ่มจาก
4) ผู้คนสงสัยว่าทำไมคุณเปลี่ยนไป
ทิดเอกตอบว่า “ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้เปลี่ยน”
5) ทำไมคุณถึงเอาความเห็นของคนที่วิจารณ์คุณมาแขวนให้คนรุมด่า
ทิดเอกตอบว่า “ผมไม่ด่าใคร ถ้าคนนั้นไม่มาด่าผมก่อน”
6) แนวทางในการทำคอนเทนต์ของคุณต่อไปจะเป็นอย่างไร
ทิดเอกตอบว่า “ผมจะเป็นตัวตนของผมที่หลากหลาย”
7) ถึงตอนนี้ ได๋ ไดอาน่า ที่นั่งฟังอยู่ถามขึ้นมาว่า ตัวตนของเราเป็นยังไง
ทิดเอกตอบว่า “ผมก็เป็นแบบนี้ ผมทำแบบนี้แล้วผมโอเค ผมเป็นในแบบที่ผมเป็น”
“ผมเคารพว่าใครจะคิดยังไง จะไม่ชอบผม ผมไม่ worry เลย ใครอยาก unfollow ก็ได้ “
“ผมไม่ระบุตัวตนของผม ว่าเป็นยังไง เพราะผมมองว่า ชีวิตมันต้องหลากหลาย”
ถึงตอนนี้ ทิดเอกพูดขึ้นมาเองว่า “ผมยินดีที่จะ move ไป ให้ใครที่ดีกว่ามาทำแทน ผมเลือกความเป็นตัวผม ผมจะจัดการและรับผิดชอบตัวผมเอง”
หลังจากนั้นทิดเอกก็ลุกออกจากรายการไป เหลือพิธีกร 3 คนดำเนินรายการต่อไป
ช่วงหนึ่ง น้าเน็ก ได้พูดว่า ไม่สามารถมองข้ามความเห็นของคนที่เข้ามาคอมเมนต์ในเพจได้ เพราะเขาบริหารจัดการเพจแบบชุมชน หรือคอมมูนิตี้ ต้องรับฟังทุกความคิดเห็น เปิดโอกาสให้ทั้งชม ด่า แบบไม่เคยบล็อกใคร จากนั้น ทิดไพรวัลย์ จึงได้ประกาศยุติบทบาทในการจัดรายการกลางอากาศ และ บอกว่าคิดมาตั้งแต่บนรถแล้ว ทำให้พิธีกรคนอื่น ไ ถึงกับอึ้ง ขณะที่ น้าเน็ก ก็ยอมรับการตัดสินใจ หลังจากนั้นจึงมีการร่ำลากัน แล้ วทิดไพรวัลย์ ก็เดินออกจากห้องส่งไป น้าเน็ก บอกว่า ตลอดชีวิตการทำงาน ยังไม่เคยเจอใครลาออกกลางรายการ และยังคิดไม่ออกว่าจะหาใครมาทำแทน
หลังตกเป็นประเด็นดรามา ไพรวัลย์ได้โพสต์ชี้แจงว่าทำไมต้องยุติบทบาท ขณะเดียวกันก็อยากให้น้าเน็กพูดด้วยความสัตย์ ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องเหวอ ในเมื่อก่อนเข้ารายการก็ได้แจ้งไปแล้ว และจะลุกออกจากรายการ
“ผมอยากให้น้าเน็กพูดและพูดด้วยคำสัตย์คำจริงว่า ก่อนเข้ารายการ ผมได้แจ้งน้าแน็กอย่างชัดเจนและครบถ้วนอย่างตรงไปตรงมาก่อนหรือไม่ว่า ระหว่างการที่ผมขึ้นรถกลับห้องและหายไปเงียบๆ จากรายการเลย กับการที่ผมเข้ารายการแล้วผมได้อำลาทุกคนพร้อมทั้งชี้แจงเรื่องของตัวเองอย่างเปิดใจ ผมเลือกแบบไหน (แบบไหนที่ว่าก็คือแบบหลัง)
ผมรู้ดีว่า ต่อให้ผมอยู่ต่อหรือผมลุกออก ผมก็โดนด่าทั้งสองทางอยู่ดี แต่ผมเลือกอย่างหลัง คือเลือกลุกออก หลังจากที่ได้พูดเรื่องของตัวเองแล้ว เพราะอย่างน้อย ผมก็เห็นว่า นี่คือสิ่งที่ดีที่สุด
ไม่ใช่ดีที่สุดสำหรับผม แต่ดีที่สุดสำหรับรายการ สำหรับคนดู ซึ่งยังอาจพอจะได้สาระอะไรบ้างจากเรื่องที่พี่ๆ ทั้ง 3 คนจะคุยหลังจากที่ผมลุกออกไปแล้ว
ผมเป็นคนเปิดเผยและตรงไปตรงมา ที่สำคัญอย่างที่พูดคือผมเคารพคนอื่น เท่าๆ กับที่ผมเคารพความรู้สึกตัวเอง
ผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมทุกคนต้องเหวอ ในเมื่อก่อนเข้ารายการ เราก็นั่งคุยกันอยู่ และทุกคนก็ทราบว่า ผมจะชี้แจงเรื่องของตนเอง และลุกออกจากรายการ
ปกติรายการนินทาประเทศไทย เราจะเตรียมเรื่องไปพูดกัน แล้วไปสรุปตกลงกันตรงที่ออกรายการว่าจะพูดเรื่องไหน แต่วันนี้ พอไปถึง น้าเรียกผมไปคุยส่วนตัว ว่าไม่มีใครสนใจประเด็นประเทศชาติอะไรแล้ว มีแต่คนคอมเมนต์ถึงผม ซึ่งในรายการจะไม่พูดเรื่องนี้ไม่ได้ ซึ่งผมก็ทราบดี และบอกกับน้าตามตรงว่า ตอนนั่งรถมาผมก็คิดเหมือนกันว่า คงต้องยุติบทบาท น้าใจกว้างกับผมมาก คือให้ผมเลือกว่า จะไม่เข้ารายการเลย กลับเลย หรือเข้ารายการสักหน่อยเพื่อจะได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นและถือโอกาสลาทุกคนกลางรายการ ผมบอกน้าว่า ถ้าจะพูดถึงเรื่องผม อย่างน้อยผมก็ควรอยู่ด้วย มันแฟร์กับผม ผมยืนยันอีกครั้งว่า ทุกคนทราบว่า ผมจะลุกออกเมื่อจบเรื่องของผม ผมพูดถึงขนาดว่า ขออนุญาตกอดพี่ได๋สักครั้ง ในฐานะที่เป็นพี่สาวที่ดีที่ผมรู้จัก คือทุกคนทราบ ไม่ใช่ไม่ทราบ”
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ (29 ม.ค.) ไพรวัลย์ได้โพสต์อีกว่า “ผมมีหลักคิดของผมแค่ว่า ถ้าสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ หรือสิ่งที่ผู้คนผิดหวังในตัวผม ไม่ได้เป็นสิ่งที่เกิดจากการที่ผมไปทำร้ายหรือทำลายความปกติสุขในชีวิตของใคร ผมมีสิทธิ์ที่จะเป็น หรือมีสิทธิ์ที่จะเลือกมันได้
วันหนึ่ง แม้ต่อให้ผู้คนเลิกติดตามและเลิกสนใจผมกันหมด ผมก็คิดว่า นั่นก็ยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้ผิดอะไร และมันสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดา ผมจะยอมรับนะครับ และผมไม่เสียใจ
ในการมีชีวิต ผมสนใจแค่ว่า ผมทำอะไรผิดต่อคนอื่นหรือเปล่า ผมสร้างปัญหาและความเดือดร้อนให้กับชีวิตของใครบ้างไหม ซึ่งแม้ถึงตอนนี้ ผมก็ยังยืนยันกับตัวเองว่า ผมไม่ได้ทำอะไรที่ว่านั้น
ชีวิตผม ผมไม่ได้ต้องการ แค่การทำอะไรก็ได้เพื่อให้ถูกใจคนอื่น หรือทำตามที่คนอื่นต้องการ เพื่อแลกกับงานหรือแลกกับเงิน
ผมดีใจนะครับ ถ้าผมได้ใช้ชีวิตในแบบของผมเอง แม้ชีวิตที่ว่านี้ จะทำให้ผมต้องกลับบ้าน (ซึ่งก็อยากกลับมากแล้วเต็มที) เพื่อไปอยู่กับพ่อแม่หรือญาติพี่น้องที่ผมรักตามอัตภาพอย่างที่ควรจะเป็น
ปล. ผมตอบกับทุกคนที่ถามผมเหมือนกันหมดว่า ผมไม่ได้ต้องการทำงานในวงการ ที่ผมยังรับงาน (ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่มีงานให้รับ) และเลือกอยู่กรุงเทพฯ เพราะผมเห็นว่า ได้อยู่ใกล้แม่ เพราะแม่เองก็ยังต้องรักษาตัวที่กรุงเทพฯ เหมือนกัน ผมพูดกับแม่ทุกครั้งว่า หายแล้วกลับบ้านเรานะ ไปทำอะไรก็ได้เล็กๆ แต่ได้อยู่บ้านด้วยกัน”
ด้านพี่ชายคนสนิท สมปอง นครไธสง หรืออดีตพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต ได้โพสต์ข้อความในแฟนเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงน้องชายหลังจากที่ได้รู้จักกันมานาน และเผยมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นว่า
‘“น้องผ้ม น้องผม” ที่ผ่านมาผมได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับน้องผมมานาน ผมรู้ว่าในสิ่งที่ผมได้สัมผัสมาตลอด น้องผมคนนี้มีมุมที่น่ารักมากๆ ที่คนอื่นยังไม่ได้สัมผัส
วันนี้ผมแค่อยากจะพูดถึงน้องชายผมในมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็น น้องผมเป็นคนที่ชัดเจน กตัญญู ตรงไปตรงมา มีจุดยืน ที่สำคัญคือรักศักดิ์ศรีและหวงสิทธิ สิทธิในตัวเองคือสิ่งที่น้องผมยึดมั่นและชัดเจนมาเสมอ
วันนี้น้องได้ตัดสินใจในสิ่งที่จะเดินหน้าต่อ ในวิธีการดำเนินชีวิตของตัวเอง พี่คนนี้แค่อยากจะบอกว่า พี่เป็นกำลังใจให้น้องเสมอ แต่พี่อยากขอให้น้องรับฟังความคิดเห็นจากคนรอบข้างมากขึ้น เอาบทเรียนต่างๆ ไปปรับปรุงแก้ไข มีสติ ให้ความสำคัญกับคำตำหนิเพื่อเป็นคนที่ดีกว่าเดิม แคร์คนที่รักเรา และเผยมุมน่ารักๆ ที่คนใกล้ตัวได้สัมผัส
พี่เชื่อว่าถ้าใครได้สัมผัสน้องจริงๆ เขาเหล่านั้นจะรักน้องเหมือนที่พี่รัก และเขาจะเข้าใจในตัวตนน้องมากขึ้นแน่นอน และพี่สัญญาว่าพี่จะเตือนน้อง แนะนำน้อง เพื่อให้น้องก้าวไปข้างหน้าที่ดีขึ้นกว่าเดิม
รักน้องนะ ไพรวัลย์น้องพี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร
เมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 29 ม.ค.65 น้าเน็ก ไลฟ์สดผ่านเพจ Nanake555 ช่วงหนึ่ง น้าเน็ก พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า
เข้าใจทิดเอก แต่ถ้าเป็นตัวเองจะไม่เลือกวิธีการแขวนคนที่เห็นต่าง เพราะตนเคารพในการอยู่ร่วมกันในรูปแบบคอมมูนิตี้ ซึ่งเพจของตนมีคนติดตามถึง 5 ล้านคน และตอนนี้เข้าใจแล้ว เมื่อตัวเองถูกแขวน
“ยืนยันไม่ใช่เอาใครมาสับในรายการ ทิดเอกครับ ผมถือว่าคุณชนะ คุณถูกต้อง ผมขอโทษแล้วกัน ถ้านั่นจะเป็นวันที่แย่และเลวร้าย โดยมีผมไปเกี่ยวข้อง ผมก็ขอโทษ แต่อะไรเกิดขึ้นแล้วดีงามเสมอ ซึ่งผมคงไม่อาจจะไปสั่งสอนคนเคยห่มผ้าเหลือง แต่ผมเคารพคุณเสมอ ถ้าพูดกันตรงๆ ผมก็มีชื่อเสียง คงไม่จำเป็นต้องไปเกาะกระแสใคร ซึ่งผมก็เริ่มชอบคุณแล้ว แต่คุณที่ผมเคยชอบก็เป็นคนละคนกับคุณในวันนี้ ซึ่งวันนี้คุณเป็นอีกแบบ แต่ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร”น้าเน็กกล่าว
“เราพูดกันไม่รู้เรื่อง เราเชื่อกันคนละแบบ ถ้าใครเห็นว่าพี่แสดง ก็มีสิทธิคิดได้ แต่ถ้าใครเข้าใจว่าพี่กำลังจะสื่อสารอะไรก็ขอบคุณ”
ขอบคุณ เรื่องเล่าเช้านี้/ไทยรัฐ/ผู้จัดการออนไลน์/รายการ นินทาประเทศไทย/NANAKE555