ตำรวจสืบสวนภาค 4 ยืดอกรับเป็นกลุ่มบุคคลตามที่ร้านกาแฟเมืองอุบลโพสต์คลิปประจานกินแล้วชักดาบ ไม่จ่ายค่าเครื่องดื่มและอาหาร 200 บาท ยอมรับเป็นความเข้าใจผิดกันเอง แต่หลังเห็นคลิปว่อนโซเชียลได้เคลียร์กับทางร้านเรียบร้อยแล้ว พร้อมขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วันที่ 19 เม.ย.65 กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ในภาพปรากฏภาพกลุ่มบุคคลเป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน รวม 3 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการหนึ่ง ทำทีเข้ามาสั่งเครื่องดื่มและขนมภายในร้านมูลค่ากว่า 200 บาท แล้วไม่จ่ายเงิน
โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้มาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดภูธรภาค 4
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทราบว่ากลุ่มบุคคลตามที่ปรากฏในคลิป คือ พ.ต.ท.วทัญญู (สงวนนามสกุล) รองผู้กำกับการสืบสวน บก.สส.ภาค 4 จ.ส.ต.ชยณัฐ (สงวนนามสกุล) และ ด.ต.หญิงรัตติยา (สงวนนามสกุล)สังกัด บก.สส.ภาค 4
ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 17 เม.ย.65 มีภารกิจไปร่วมงานพิธีสวดอภิธรรมศพ ตำรวจรุ่นน้องที่อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี แต่เนื่องจากไปถึงก่อนเวลาจึงไปนั่งดื่มเครื่องดื่มและอาหารที่ร้านกาแฟ เพื่อรอเวลา
ทันทีที่ไปถึง ด.ต.หญิงรัตติยา เดินไปสั่งเครื่องดื่มก่อน โดยยังไม่จ่ายเงินเพราะรอจ่ายพร้อมกัน จากนั้น จ.ส.ต.ชยณัฐ ได้เดินตามไปสั่งเครื่องดื่มอีกครั้ง ในระหว่างนั้นต่างคนต่างลุกกันไปสั่งเครื่องดื่มและอาหาร พร้อมกับเดินไปเข้าห้องน้ำ จึงทำให้คิดว่ามีคนไปจ่ายค่าเครื่องดื่มและอาหารเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถึงเวลานัดหมายจึงพากันเดินออกจากร้าน ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็หลังจากที่ทางร้านได้โพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังทราบข่าวก็ได้ติดต่อไปทางร้านเพื่อขอจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด พร้อมกับขอโทษเจ้าของร้านเป็นที่เรียบร้อย
พ.ต.ท.วทัญญู กล่าวอีกว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดยืนยันไม่ได้มีเจตนาที่จะโกงค่าอาหารทางร้านกาแฟแต่อย่างใด แต่เกิดจากความเข้าใจผิดกันเองในกลุ่มที่คิดว่าต่างคนต่างจ่ายค่าอาหาร และเครื่องดื่มแล้ว จึงเดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้สอบถามกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้
และในวันที่ไปใช้บริการที่ร้านก็ได้ถ่ายภาพพร้อมกับโพสต์ลงเฟซบุ๊คส่วนตัว ซึ่งแสดงถึงเจตนาว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะเบี้ยวค่าบริการ และหลังจากเกิดเรื่องก็ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับทางร้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต่ายฝ่ายต่างไม่ติดใจและยอมรับว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน
ขอบคุณ ข่าวสด/กรุงเทพธุรกิจ