ในทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยเรื่อง “คำถามเชิงตรรกะ” นั้นสนุกเสมอ เพราะคำถามเหล่านี้ทำให้เราได้คิดในมุมมองที่ต่างออกไป ได้ใช้จินตนาการที่ไร้ขีดจำกัดไปพร้อมกับองค์ความรู้ที่เรามี
บทความของ ด็อกเตอร์อัลเฟรโด คาร์พิเนติ ที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ iflscience เชิญชวนให้ผู้อ่านได้ลองจินตนาการเล่นๆว่า “หากโลกหยุดหมุนกะทันหัน 1 วินาทีจะเป็นอย่างไร?”
จินตนาการถ้าโลกหยุดหมุน ก็จะเหมือนเราอยู่ในรถยนต์ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 1,670 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วเหยียบเบรกกะทันหัน, หากอยู่ในอาคาร ตัวเราก็จะถูกเหวี่ยงไปยังกำแพงด้านตะวันออกที่ใกล้ที่สุด พร้อมสัมผัสความเร่งของแรงโน้มถ่วงโลกที่มากกว่าปกติถึง 47 เท่า
แม้ตัวโลกจะหยุดนิ่ง แต่ทุกอย่างจะยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับที่โลกหมุนก่อนหน้านี้ รวมถึงบรรยากาศและมหาสมุทรทั้งหมด โดยแค่ลมเพียงอย่างเดียวก็อาจเร็วและแรงกว่าลมที่เร็วที่สุดที่เคยบันทึกไว้ (408 กม./ชม.) ถึง 4 เท่า จากนั้นเราอาจจะได้พบกับ “คลื่นสึนามิ” ขนาดใหญ่ที่ทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่ในระยะยาว การอยู่ใกล้ขั้วโลกก็ไม่อาจช่วยเราได้เช่นกัน เนื่องจากการหมุนของโลกจะทำให้ส่วนตรงกลางนูนขึ้น ดังนั้น “ขั้วโลก” จึงอยู่ใกล้ศูนย์กลางของโลกมากกว่าเส้นศูนย์สูตรประมาณ 21 กิโลเมตร หากไม่มีการหมุน มหาสมุทรจะย้ายเข้าหาขั้วโลกซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงโน้มถ่วงแรงที่สุด ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทวีปขนาดใหญ่ 1 ทวีปจะขวางเส้นศูนย์สูตร แล้วทำให้ 2 มหาสมุทรแยกออกจากกัน
หากโลกกลับมาเคลื่อนที่ต่อหลังจาก 1 วินาที ระบบเวลาก็จะยังคงเหมือนเดิม แต่ถ้าหากโลกหยุดหมุนแบบถาวร ครึ่งโลกจะกลายเป็นกลางวันตลอดกาล และอีกครึ่งจะเป็นกลางคืนตลอดกาล ทำให้เกิดสภาพอากาศสุดขั้ว และสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่จะพากันล้มตายและทยอยสูญพันธุ์
ตามรายงานของ Esri บริษัททำแผนที่และวิเคราะห์ เผยว่า ถ้าโลกหยุดหมุน มหาสมุทรจะทำให้ทวีปยุโรปและรัสเซียส่วนใหญ่อยู่ใต้น้ำ, กรีนแลนด์และแคนาดาทั้งหมดจะจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ ชิคาโก, ซีแอตเทิล, บอสตัน และ นิวยอร์ก ของสหรัฐฯ จะยังอยู่ใกล้มหาสมุทร แต่อยู่ในทิศทางที่ต่างออกไป ส่วนในซีกโลกใต้ มหาสมุทรจะปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของอาร์เจนตินา, ชิลี, นิวซีแลนด์ รวมถึงทวีปแอนตาร์กติกาทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี้คือเรื่องสมมุติ เราไม่ต้องกังวลว่าโลกจะหยุดหมุน แต่หากเป็นเรื่อง “โลกหมุนช้าลง” นั้นจริงแท้แน่นอน เพราะในศตวรรษที่ผ่านมา ความยาวของวันโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.7 มิลลิวินาที และแนวโน้มในระยะยาวอาจเกิดผลกระทบกับแรงน้ำขึ้นน้ำลงระหว่างโลกกับดวงจันทร์ แต่ทั้งนี้ ความยาวของวันยังมีความผันผวนเนื่องจากผลกระทบอื่นๆด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป โลกจะใช้เวลา 18,500 ล้านปี ในการทำให้ 1 วันยาวนานเท่ากับ 1 ปี

ขอบคุณผู้สนับสนุนข้อมูลดีๆ จาก ALLSUREWIN
สนใจเข้ามาผ่อนคลายกับหลากหลายเกมส์มากมายให้เลือกเล่น ได้ที่ @ALLSUREWIN
เล่นที่นี่มีแต่วิน ต้องวินชัวร์ แอด @winsure
ใครปิด เราไม่ปิด สนใจเสี่ยงดวงติดต่อเราได้ที่ไลน์ @asw888 ตลอด 24 ชม.
เกมดี เกมมัน มากกว่า 1,000 เกม @gamewin
แค่คิดถึงเรา เงินก็อยู่ในบัญชี @asw168
เล่นได้ จ่ายชัวร์ @RT88