ทิดไพรวัลย์ สวนกลับพระมีอภิสิทธิ์ ชี้ลาสิกขาแล้วก็ควรพอ หลังทวงกุฏิอดีตเณร

ทิดไพรวัลย์ สวนกลับพระมีอภิสิทธิ์ ชี้ลาสิกขาแล้วก็ควรพอ หลังทวงกุฏิอดีตเณร ชี้ควรมีเมตตา อย่าอยู่ด้วยชิงชัง มีวิธีที่ดีกว่ามากๆ แบบพี่น้องแบบครูอาจารย์ที่จะบอกให้เด็กย้ายจากวัด

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ภายหลังจากที่ทิดไพรวัลย์ได้สึกออกจากสมณเพศแล้วนั้น วันนี้ ทิดไพรวัลย์ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่จดหมายของคณะกรรมการวัดสร้อยทอง พระอารามหลวง แจ้งให้คืนห้องพักแก่ทางวัด ถึงผู้อาศัยกุฏิคณะ 7 ชั้น 2 ห้อง 201 ว่า

ด้วยปัจจุบันวัดสร้อยทอง กำลังบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะหลายแห่ง จึงมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากที่ตั้งเดิมเป็นการชั่วคราว เพื่อไปจัดเก็บในสถานที่แห่งใหม่ที่มีความเหมาะสม อีกทั้ง 11-31 มกราคม พ.ศ.2565 วัดสร้อยทองจะได้จัดโครงการอบรมบาลีก่อนบาลีสนามหลวง ในช่วงดังกล่าวจะมีพระภิกษุสามเณรจากต่างวัดมาพักอาศัยที่วัดสร้อยทอง เป็นจำนวนมาก ทางวัดจึงมีความจำเป็นต้องจัดหาที่พักรับรองพระภิกษุสามเณรที่เข้าร่วมโครงการ

ที่ประชุมจึงมีมติไม่อนุญาตให้ท่านพักอาศัยอยู่ในกุฏิคณะ 7 ชั้น 2 ห้อง 201 อีกต่อไป และขอให้ท่านได้ย้ายออกจากห้องพักดังกล่าว ภายใน 14 ธันวาคม เพื่อวัดจะได้ใช้ประโยชน์ต่อไป ”

โดย ทิดไพรวัลย์ กล่าวว่า

“ใครที่ไหนไปพักอยู่ครับ คณะ 7 ห้อง 201 เนี่ย แค่เด็กมันเอาของไปเก็บไว้ เพื่อรอย้ายเข้าหอพักเท่านั้นเอง เป็นถึงพระเถระ ไม่มีเมตตาธรรมเลยหรอครับ (ผมไม่อยากเอ่ยชื่อท่านนะครับ) และเด็กที่ว่าก็ใช่ใครอื่น เป็นอดีตสามเณรที่เคยบวชเรียนอยู่ในวัดนะครับ เคยเป็นลูกศิษย์ท่าน เคยรับใช้สำนักเรียน อย่าให้ผมเหลืออดเหลือนะครับ

พระบางรูปในวัด รูปเดียวอยู่ 2-3 ห้อง นี่อภิสิทธิ์หรือเปล่าครับ ห้องกระจกชั้น 4 แต่ก่อนก็ทิ้งขว้างไม่ใช้ประโยชน์ พอผมเอาของที่มีคนบริจาคเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านช่วงโควิดไปไว้ ก็หาเล่ห์เพทุบาย เพื่อให้ผมย้ายข้าวของออก คิดว่าผมดูไม่ออกหรอครับ ผมแค่ไม่อยากพูดก็เท่านั้นเอง

เป็นพระควรกอปรด้วยเมตตาธรรมนะครับ ไม่ใช่อยู่ด้วยความอคติชิงชัง ผมลาสิกขาออกมาแล้ว ก็ควรพอได้แล้วนะครับ

ปล. มีการศึกษากันทั้งนั้นนะครับ ผมว่ามันมีวิธีที่ดีกว่ามากๆ แบบพี่น้อง แบบครูอาจารย์ ที่จะบอกให้เด็กย้ายของออกจากวัดนะครับ #อันนี้ผมขอตำหนิ”