นาวาตรี ทัพเรือ ทำฉาว ซ่อนกล้องในห้องน้ำหญิงของ รพ. แอบถ่ายมาราธอน นาน 6 ปี พบหลักฐานกว่า 1,000 คลิป เหยื่อสาวโผล่ 23 ราย ซ่อมสายไฟถึงรู้ ตร.เรียกรับทราบข้อกล่าวหา ต้นสังกัดแจงผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ว่าที่ นาวาตรี กระทำความผิดจริง
วันที่ 3 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 23 คน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เอกชัย มูลลี สารวัตร (สอบสวน) สภ.พลูตาหลวง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่าถูกนายทหารเรือยศนาวาตรี อายุ 54 ปี ตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำ ประจำแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
โดยพบกล้อง 2 ตัว ติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดานของห้องน้ำประจำแผนก ขณะทำการซ่อมทำระบบสายไฟ เมื่อไล่ตรวจสอบตามสายก็พบต้นตอที่มาของกล้องว่าต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ของนายทหารชั้นยศ ‘นาวาตรี’ ตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์ จนพบหลักฐานคลิปวิดีโอขณะหญิงสาวกำลังทำธุระส่วนตัวภายในห้องน้ำราว 1,000 คลิป ซึ่งถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 นานถึง 6 ปี
ด้าน พ.ต.ท.เอกชัย มูลลี สารวัตร สภ.พลูตาหลวง กล่าวว่า หลังมีการมาแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ก็ได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้ง 23 ปาก เบื้องต้นได้ประสานงานไปยังต้นสังกัดของนาวาตรีดังกล่าว เพื่อสอบสวนและตั้งข้อหา เบื้องต้นพิจารณาตั้งข้อหา 3 ข้อหา คือ
1.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถชัดขืนได้
2.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
3.กระทำด้วยประการใดๆต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคามหรือกระทำให้ได้รับความอับอาย หรือเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งเป็นการกระทำในที่สาธารณะสถาน หรือเป็นการกระทำอันมีลักษณะส่อไปในทางที่จะล่วงเกินทางเพศ
ต้นสังกัดของนาวาตรี แจ้งมาว่าจะนำตัวนาวาตรีนายดังกล่าวมาสอบสวน ในวันที่ 10 ก.พ.นี้
ล่าสุด วันนี้ 3 ก.พ. เมื่อเวลา 15.00 น. พลเรือโท ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณีมีกำลังพลกองทัพเรือชั้นยศ นาวาตรี ตั้งกล้องแอบถ่ายในห้องน้ำหญิง ภายในสำนักงาน โดยผู้ตกเป็นเหยื่อประกอบด้วยข้าราชการพนักงานลูกจ้างและนักเรียนฝึกงาน โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพลูตาหลวงอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรีไปแล้วนั้น
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกเปิดเผย เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังมีผู้พบกล้อง 2 ตัวติดตั้งอยู่บนฝ้าเพดานห้องน้ำในสำนักงานของหน่วยงานราชการในสังกัดกองทัพเรือ ขณะทำการซ่อมแซมระบบสายไฟ
เมื่อมีการตรวจสอบจึงพบว่ามีการซ่อนกล้องต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ของว่าที่ นาวาตรี รายหนึ่ง สังกัดแผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ จากการตรวจสอบข้อมูลภายในคอมพิวเตอร์พบหลักฐานคลิปวีดีโอของผู้เสียหายขณะทำภารกิจส่วนตัวซึ่งถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558
ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดของ ว่าที่ นาวาตรี ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยได้ทำการกักควบคุมตัว ว่าที่ นาวาตรี เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไปข่มขู่ผู้เสียหาย และมิให้ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานระหว่างสอบสวน
จากผลการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า ว่าที่ นาวาตรี กระทำความผิดจริง
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่า การกระทำของ ว่าที่ นาวาตรี เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ. 2476 และเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เสียหายจำนวนมากและสร้างความเสื่อมเสียต่อกองทัพเรือ
กองทัพเรือ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง เพื่อพิจารณาตามกฏหมายตลอดจนข้อบังคับและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาโทษความผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการสอบสวนของคณะกรรมการโดยเร็ว
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวต่อไปว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ส่งข้อความไปยังกำลังพลทุกนายว่า ในขณะที่พี่น้องทหารเรือเราปฏิบัติงานอย่างเหนื่อยยาก ลาดตระเวนตามแนวชายแดนทั้งทางบกทางทะเล ทั้งกลางวันกลางคืน บางส่วนบินตรวจการณ์ โปรยสารเคมีขจัดคราบน้ำมัน บางส่วนตอนนี้ยังอยู่ใต้น้ำตรวจสอบเรือจม และตรวจสอบผลกระทบจากน้ำมันรั่ว
แต่ก็ยังมีบางคนที่ประพฤติตัวไม่ดี ทำให้ส่วนรวมเสื่อมเสีย ผมขอประฌามการประพฤติตัวดังกล่าว และจะดำเนินการลงโทษให้ถึงที่สุด เพื่อรักษาเกียรติของพวกเราทหารเรือให้คงอยู่และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนสืบไป
ขอบคุณ ข่าวสด/ไทยรัฐ/GMM25Thailand