เด็กชายอายุ 8 ปี ติดโควิด-19 แต่คนในครอบครัวไม่ติด จึงต้องเข้ารักษาตัวเพียงคนเดียว แต่ถูกผู้ใหญ่ที่อยู่ในห้องเดียวกันไล่ออกจากห้อง เพราะน้องคุยโทรศัพท์กับแม่เสียงดัง
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวของการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งระบุว่า พบเด็กที่ติดเชื้อเพียงคนเดียวในครอบครัว ต้องมารักษาตัวเพียงคนเดียว ถูกผู้ป่วยโควิด-19 ที่เป็นผู้ใหญ่และต้องนอนร่วมห้อง ดุด่าและไล่เด็กออกจากห้องพัก โดยอ้างว่าเด็กส่งเสียงดัง เหตุเพราะเด็กคุยโทรศัพท์กับแม่ ตนจึงสงสารและพามานอนในห้องพักห้องเดียวกัน และให้นอนเตียงที่ยังว่างอยู่
โดยข้อความระบุว่า
สงสารเด็กจริงๆ ไปนอนห้องกับผู้ใหญ่
ก็โดนไล่มาอีก ไม่มีที่นอนสะงั้นเด็กตัวแค่นี้
นอนอยู่ได้ยินเสียงคนด่าเลยออกไปดู
ออกมาเจอน้องนั่งอยู่หน้าห้องเลยถามไปไหนน้องบอกไม่มีที่นอนโดนผู้ใหญ่ในห้องเขาไล่มาละน้องก็ร้องไห้ ก็เลยให้ห้องเก็บเสื้อผ้าจากห้องที่เขาไล่ละมานอนด้วยกัน
ดีนะที่ออกมาเจอเพราะตอนน้องโดนด่า
น้องก็นั่งอยู่คนเดียวดึกแล้วด้วยไม่มีใครสักคน
ถ้าไม่ออกไปเจอน้องก็นั่งอยู่แบบนั้น 😔
คนเราก็เนอะไม่สงสารเด็กบ้างเลย
ขอให้ส่วนนี้เป็นบุญของผมให้ผมหายเร็วๆ🙏
โดยโพสต์ดังกล่าวมีเพื่อนเข้ามาคอมเมนท์สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จังได้รับคำตอบว่าเด็กถูกไล่เพราะผู้ใหญ่ร่วมห้องระบุว่าเด็กคุยโทรศัพท์กับแม่เสียงดัง จึงต้องออกมาหน้าห้อง เมื่อเข้าไปถามไถ่จึงร้องไห้ออกมา
ต่อมา นายชัชชัย พานสัมฤทธิ์ อายุ 19 ปี เปิดใจกับ ‘ ข่าวสดออนไลน์ ‘ หลังจากช่วยเหลือน้องโฟกัส ว่า ตนป่วยเป็นโควิด 19 และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงแรม ซึ่งเมื่อวาน (วันที่ 27 เม.ย.) ช่วงประมาณ 20.00 น. ตนออกไปเอาของกับเพื่อนที่เอามาให้ แล้วก็เห็นเด็กผู้ชายสองคน เดินไปเดินมา ตนจึงถามว่า ทำไมยังไม่เข้านอนอีก น้องโฟกัสก็บอกว่า โดนไล่ออกจากห้องมา เขาต่อว่าแล้วก็ไม่ให้นอน น้องเลยออกมาเดินอยู่ข้างนอก
โดยน้องเล่าเรื่องให้ฟังว่า น้องป่วยคนเดียวในบ้าน จึงมารักษาตัวอยู่ที่นี่ ซึ่งมีที่พี่รู้จักกันอายุไล่เลี่ยกันมารักษาตัวด้วย ตอนที่น้องไปถึงที่ห้อง ก็โทรหาครอบครัว บอกว่าอยู่ที่ห้องแล้ว แต่ว่าถูกคนที่พักอยู่ด้วยกันต่อว่า บอกว่า คุยโทรศัพท์เสียงดังไม่มีมารยาท ต่อมา น้องคนที่มารักษาตัวก่อนหน้านี้เอาข้าวกับยามาให้ แล้วเขาก็ตะโกนขึ้นมาจากข้างล่าง น้องเลยตะโกนกลับไป แต่ก็ถูกคนในห้องด่าทั้งคู่ พร้อมกับใช้ถ้อนคำหยาบคาย ไล่ออกนอกห้องจนน้องกลัว จึงออกมาเดินข้างนอกประมาณ 17.00 น. แล้วก็มาเจอตน
ตนรู้เห็นใจและสงสาร ก็เลยให้เลขห้องไป บอกว่า ถ้าไม่มีที่นอน มานอนด้วยกันก็ได้ เพราะว่าห้องตนเป็นเตียงคู่ ข้าง ๆ ยังไม่มีใครนอน น้องก็รับไป จนกระทั่งเวลา 22.00 น. น้องมาเคาะประตู แล้วมองตนด้วยท่าทีหวาดกลัวตัวสั่น ตนเลยถามว่า จะนอนด้วยใช่ไหม น้องก็บอกว่า ขอนอนด้วย ตนเลยให้ไปเอาเสื้อผ้ามาอยู่ด้วยกัน พอน้องมาถึงที่ห้อง น้องก็รีบนอนทันที จึงไม่ถามอะไรมาก
“เช้ามาได้รับการติดต่อจากครอบครัวของน้องว่าจะพาน้องไปรักษาที่อื่น แต่ผมกลัวว่าน้องจะได้ไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนามแล้วจะลำบาก เพราะว่าที่เรารักษากันอยู่ที่นี่ก็ดีอยู่แล้ว จึงบอกครอบครัวว่าไม่เป็นไร พักอยู่กับผมก็ได้ ผมดูแลน้องให้ได้ อยากฝากบอกว่า อยากให้เราเห็นใจซึ่งกันและกัน น้องมารักษาตัวคนเดียว เราก็ควรจะเห็นใจและดูแลเขาเพราะเขายังเด็ก”นายชัชชัย กล่าว
ขอบคุณ มติชนออนไลน์/ข่าวสด