ประเทศนอร์เวย์ถือเป็นประเทศแรกๆ ที่มีการฉีดวัคซีนโควิด ซึ่งเป็นวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนแล้ว 29 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ
สำนักข่าว บลูมเบิร์ก รายงานในวันเสาร์ที่ 16 ม.ค. 2564 ว่า ทางการนอร์เวย์เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท ไฟเซอร์ และ ไบโอเอ็นเทค มากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากมีผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อน เสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนตัวนี้เพิ่มเป็น 29 ศพแล้ว
นอร์เวย์พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 6 รายในวันเสาร์ โดยลดอายุของกลุ่มที่เชื่อว่าได้รับผลกระทบลงจาก 80 ปี ไปอยู่ที่ 75 ปี โดยตอนนี้ทางการยังไม่ทราบแน่ชัดว่า การเสียชีวิตเกิดขึ้นเมื่อใดบ้าง แต่นอร์เวย์ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส ให้กับประชาชนแล้ว 42,000 คน โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้มีความเสี่ยงสัมผัสกับไวรัส รวมทั้งผู้สูงอายุ
จดหมายที่สำนักงานการแพทย์นอร์เวย์ ตอบคำถามของ บลูมเบิร์ก เมื่อวันเสาร์ ระบุว่า จนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีเพียงวัคซีนที่ร่วมกันพัฒนาโดย ไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทคเท่านั้น ที่มีใช้ในนอร์เวย์ ดังกล่าว การเสียชีวิตทั้งหมดจึงมีส่วนเชื่อมโยงกับวัคซีนชนิดนี้
“มีผู้เสียชีวิต 13 ศพที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว และเราทราบว่า มีผู้เสียชีวิตอีก 16 รายที่กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ” สำนักงานการแพทย์นอร์เวย์ระบุ และเสริมว่า การเสียชีวิตทั้งหมดที่มีรายงาน เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุที่มีความผิดปกติพื้นฐานขั้นรุนแรง และส่วนใหญ่เกิดผลข้างเคียงตามที่คาดว่าวัคซีนจะทำให้เกิด เช่น เวียนหัว, อาเจียน, มีไข้, เกิดปฏิกิริยาที่จุดฉีด และทำให้โรคประจำตัวมีอาการหนักขึ้น
จนถึงตอนนี้จำนวนรายงานการแพ้วัคซีนยังถือว่าต่ำ ในขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆ กำลังเร่งกระจายวัคซีน เพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น ที่สหรัฐฯ เจ้าหน้าที่รายงานพบกรณีการแพ้ยารุนแรง 21 กรณี ในช่วงวันที่ 14-23 ธ.ค. 2563 หลังจากฉีดวัคซีนของไฟเซอร์โดสแรกให้ประชาชนราว 1.9 ล้านคน ขณะที่รายงานความปลอดภัยของวัคซีนไฟเซอร์ในยุโรป จะเผยแพร่ช่วงสิ้นเดือนมกราคม
การค้นพบล่าสุดทำให้สถาบันสาธารณสุขนอร์เวย์ ออกมาเตือนว่า วัคซีนต้านของโควิด-19 ของไฟเซอร์ อาจเสี่ยงเกินไปที่จะฉีดให้กับผู้ที่อายุมาก และป่วยรุนแรง “สำหรับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอที่สุด กระทั่งแพ้วัคซีนเพียงเล็กน้อย ก็อาจเกิดผลที่ตามมาร้ายแรง สำหรับผู้ที่มีช่วงชีวิตที่เหลือสั้นมากอยู่แล้ว ประโยชน์จากวัคซีนอาจเล็กน้อย หรือไม่มีเลย”
อย่างไรก็ตาม นาง เอเมอร์ คุค (Emer Cooke) หัวหน้าสำนักงานการแพทย์ยุโรป กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในนอร์เวย์ไม่ได้หมายความว่า คนหนุ่มสาวที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 แต่เป็นข้อบ่งชี้ถึงสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังในระยะแรก ในขณะที่หลายประเทศเริ่มออกรายงานด้านความปลอดภัย
ด้านบริษัท ไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทค เผยว่า พวกเขากำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบของนอร์เวย์ เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น โดยไฟเซอร์ย้ำว่า จำนวนเหตุการณ์ที่พบจนถึงตอนนี้ ยังไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ และสอดคล้องกับจำนวนที่คาดการณ์เอาไว้
ขอบคุณ ไทยรัฐ