เด็กนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี โพสต์คลิปร้องเรียน ผอ.โรงเรียน ลงโทษนักเรียน เกินกว่าเหตุ สั่งเด็กป่วยโรคหัวใจให้ลุกนั่ง พร้อมนั่งตากแดด แถมบูลลี่รูปร่างหน้าตา
จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3 ได้โพสต์ข้อความว่า “น้องๆแจ้งเข้ามา..ให้สื่อสังคมช่วยตรวจสอบหน่อย..การทำโทษนั้นมันเหมาะสมหรือไม่ กับแดดเมืองไทย น้องบอกว่า 1 ในคนที่ถูกทำโทษ เข้าไปอ้วกแตก นั่งร้องไห้ ในห้องน้ำ ผอ.รร.หนึ่งย่านพานทอง ทำโทษเด็กเรื่องที่ไม่ติดโบว์, ไว้หน้าม้า, โดยการให้เด็กนั่งตากแดกกลางสนามเกือบชั่วโมง, วิ่งรอบสนาม ให้เด็กที่เป็นโรคหัวใจลุกนั่งเเล้วก็นั่งตากแดด, บูลลี่รูปร่างเด็ก ว่าครูเเละนักเรียนถึงการอบรมสั่งสอนให้นอนตากเเดดกลางเเขนกลางขากลางเเดด” จนมีชาวเน็ตเข้ามาแชร์และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนดังกล่าว ในพื้นที่ ต.หนองหงส์ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปพบกับนางสาวบี (นามสมมุติ) พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน ที่ถูกทำโทษในวันนั้น
จากการสอบถาม น.ส. บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี หนึ่งในผู้ถูกลงโทษ ได้เล่าว่า ในช่วงเช้าขณะที่พวกตนนั้นได้ขึ้นห้องเพื่อเข้าเรียนแล้วนั้น ทาง ผอ.ได้เดินมาเรียกพวกตนให้ลงมาเข้าแถวด้านหน้าเสาธง แล้วสั่งทำโทษ ด้วยการวิ่งรอบสนาม 1 รอบ หลังจากนั้นได้ให้ลุกนั่งอีกครั้ง โดยที่พวกตนนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรผิด พวกตนนั้นได้ทำความสะอาดอาคารพลศึกษาแล้ว และได้ถามทาง ผอ.ไปว่าจะทำโทษความผิดอะไร ทาง ผอ.ได้บอกว่าพวกตนนั้นแต่งกายไม่เรียบร้อย และไว้ผมทรงหน้าม้า จึงให้ไปวิ่งรอบสนาม 1 รอบ และใครที่กลับมาช้า ได้สั่งทำโทษด้วยการลุกนั่งอีก ซึ่ง 1 ในคนที่โดนทำโทษนั้นเป็นโรคหัวใจ และหลังจากที่โดนทำโทษแล้ว เพื่อนได้หน้ามืดจะเป็นลม และมีการอาเจียนออกมา ตนและเพื่อนจึงได้ช่วยกันจนอาการดีขึ้นและพากันขึ้นห้องเรียน ตามปกติ
ซึ่งมีเพื่อนที่โดนทำโทษมีทั้งหมด 8 คน รวมตนเองด้วย ส่วนตนนั้นโดนทาง ผอ.บูลลี่เรื่องทรงผม หน้าม้า ซึ่งตนได้ให้เหตุผล ที่ไว้ทรงผมหน้าม้า โดยบอกกับ ผอ.ว่า ตนนั้นมีรอยแผลที่ใบหน้าซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุรถ จยย.ล้ม แต่ผอ.ไม่ยอมฟังเหตุผล และยังพูดกลับมาว่าเป็นเรื่องไร้สาระ พร้อมกับได้เอารูปภาพม้าในโทรศัพท์ของ ผอ. มาให้ตนดูว่าหน้าเหมือนม้า ทำให้รู้สึกเสียใจมาก จึงได้แต่ยืนกำมือ ผอ.จึงพูดกับตนขึ้นมาว่า ถ้าจะบวกกับ ผอ.ก็ได้นะ ตนก็ยังควบคุมอารมณ์และเรื่องนี้ทางผู้ปกครองก็ได้รู้แล้ว และจะเข้ามาพูดคุยกับผอ.ที่โรงเรียนอีกครั้ง ตนอยากให้ทางผอ. เปิดใจรับฟังเหตุผลของนักเรียนบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เหตุผลของตัวเองแบบนี้ และไม่อยากให้ทำแบบนี้กับนักเรียนคนอื่นอีก
ขอบคุณ PPTV36/sanook.com