รัฐประหารเมียนม่ายังคงน่าเป็นห่วง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมด้วยกระสุนจริง แก๊สน้ำตา และระเบิดควัน ควบคู่ไปกับการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง โดยแทบไม่มีการเตือนล่วงหน้า ทำให้มีคนเสียชีวิต 38 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ในวันพุธที่ 3 มี.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของเมียนมาปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพอย่างหนัก โดยนางคริสติน ชรานาร์ บวร์กเอนนาร์ ทูตพิเศษสหประชาชาติประจำประเทศเมียนมา ออกมาเปิดเผยว่า นี่เป็นวันที่นองเลือดที่สุด มีผู้เสียชีวิตมากถึง 38 ศพ
นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. จนทำให้เกิดการประท้วงต่อต้านไปทั่วประเทศ กองทัพเมียนมาได้ยกระดับการปราบปรามผู้ชุมนุมขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในวันพุธมีรายงานการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุมในหลายเมือง มีทั้งการยิงปืน, แก๊สน้ำตา และระเบิดควัน ควบคู่ไปกับการใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง โดยแทบไม่มีการเตือนล่วงหน้า
มีผู้ชุมนุมอย่างน้อย 4 ศพเสียชีวิตระหว่างการปะทะกันที่เมืองโมนยวา ตอนกลางของประเทศ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 30 ราย นอกจากนั้นยังมีรายงานพบผู้เสียชีวิตในเมืองอื่นๆ อย่างนครย่างกุ้ง, เมืองมัณฑะเลย์ และเมืองมยินจาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 19 คนที่การประท้วงบริเวณชานเมืองย่างกุ้งด้วย ซึ่งการสูญเสียครั้งล่าสุดทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตนับตั้งแต่เกิดรัฐประหารทะลุ 50 ศพแล้ว
ทั้งนี้ เหตุความรุนแรงล่าสุดในเมียนมา เกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียน ประชุมหารือกันในเรื่องสถานการณ์ในเมียนมา โดยเรียกร้องให้กองทัพอดทนอดกลั้น แต่มีรัฐมนตรีเพียงไม่กี่คนที่เรียกร้องให้รัฐบาลทหารปล่อยตัวนาง ออง ซาน ซูจี
ขอบคุณ ไทยรัฐ