หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเป็นระยะเวลานาน
ตอนนี้เริ่มมีสิ่งดีๆ เข้ามาให้คลายความกังวล เมื่อบริษัทบริษัทยาไฟเซอร์ อิงค์ของสหรัฐฯ และไบโอเอ็นเท็คเยอรมนี
ประสบความสำเร็จในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมากกว่า 90%
ไฟเซอร์ และ ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสัญชาติเยอรมัน หุ้นส่วนของไฟเซอร์ กลายเป็นผู้ผลิตยารายแรกที่เปิดเผยข้อมูลความสำเร็จในการทดลองคลินิกของวัคซีนโควิด-19 ด้วยกลุ่มตัวอย่าง 43,500 คน ใน 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี บราซิล อาร์เจนตินา แอฟริกาใต้ และตุรกี
ไม่พบข้อกังวลความปลอดภัยร้ายแรง และน่าจะขออนุญาตจากสหรัฐอเมริกาในเดือนนี้เพื่อใช้วัคซีนดังกล่าวในกรณีฉุกเฉินต่อไป
การทดลองเป็นการฉีดรหัสพันธุกรรมของไวรัสเข้าไปฝึกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ผู้ทดลองต้องได้รับวัคซีนสองครั้ง แต่ละครั้งเว้นระยะห่าง 3 สัปดาห์ ปรากฏว่า ผู้เข้าร่วมการทดลองมีภูมิคุ้มกันไวรัสหนึ่งสัปดาห์หลังได้รับวัคซีนครั้งที่สอง
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 60-70% ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ เคยกล่าวว่า หากวัคซีนมีประสิทธิภาพ 50-60% ก็ถือว่ายอมรับได้ ดังนั้นการที่วัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูงถึงมากกว่า 90% ถือว่าเยี่ยมยอด
ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคทำสัญญามูลค่า 1.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เพื่อผลิตวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส โดยจะเริ่มในช่วงต้นปีนี้ รวมทั้งจะต้องผลิตวัคซีนให้แก่สหภาพยุโรป อังกฤษ แคนาดา และญี่ปุ่นด้วย ซึ่งเพื่อเป็นการประหยัดเวลา ทางบริษัทได้เริ่มผลิตวัคซีนนี้ล่วงหน้าไว้แล้ว ก่อนที่จะรู้ว่าวัคซีนได้ผลหรือไม่ เพื่อให้ทันการใช้งาน ซึ่งคาดว่าน่าจะสามารถผลิตวัคซีนได้ถึง 50 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชากรราว 25 ล้านคนในปีนี้ และจะผลิตได้อีก 1.3 พันล้านโดสภายในปี 2564