ผกก.สภ.บางปะกง เผยแจ้ง 3 ข้อหา-คุมตัวทำแผน วินจยย.หนุ่มใหญ่ ชัก .38 ยิงหัวเพื่อนร่วมอาชีพดับ เจ้าตัวอ้างโดนหยาม ก่อนเข้ามอบตัวยังขี่ไปส่งผู้โดยสาร ขณะที่เมียคนตาย บอกสามีเป็นคนดี เป็นคนตรงๆ ไม่เคยคิดร้ายกับใคร ขณะเพื่อนบอก ผู้ก่อเหตุ ทำตัวเป็นนักเลง หากท้าต่อย ทำไมไม่ต่อยกันตัวต่อตัว ทำไมต้องยิงทันที เหมือนตั้งใจ
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ย.65 พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ ผกก.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมพ.ต.ท.สมคิด พลมั่น สวป.สภ.บางปะกง ร.ต.ท.ณรงค์ศักดิ์ ลิ้นทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางปะกง ชุดสืบสวน สภ.บางปะกง รถกู้ชีพโรงพยาบาลบางปะกง และหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ตรวจสอบเหตุคนถูกยิง บริเวณคอสะพานข้ามคลองบางขื่อ ซอย 10 ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกร์ว ข้างสนามบอล บ.เอ็นเอสเค หมู่ 5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง
ที่เกิดเหตุพบร่าง นายสุรเชษฐ์ อายุ 54 ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี วินรถจักรยานยนต์รับจ้างเบอร์ 66 วัดพิมพา สวมหมวกกันน็อกสีดำถูกยิงที่ขมับซ้าย 1 นัด และที่ข้อมือขวาถูกยิงทะลุไปโดนหน้าท้อง 1 นัด นอนหายใจรวยรินอยู่ข้างทาง โดยพบรถจักรยานยนต์ของนายสุรเชษฐ์จอดอยู่ ก่อนที่น.ส.นันทิยา อิงคะวะระ อายุ 49 ปี ภรรยาขี่รถจักรยานยนต์จะไปทำงานแล้วผ่านมาเจอ ทำให้รีบจอดรถลงมาดูก่อนร้องไห้ขอให้คนช่วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เร่งทำการปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลบางปะกง แต่นายสุรเชษฐ์เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบคือนายไพศาล วงค์ษา อายุ 56 ปี ขี่วินรถจักรยานยนต์ วัดพิมพา เบอร์ 46 หลังก่อเหตุได้ขี่รถไปมอบตัวที่ สภ.บางปะกง พร้อมอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 1 กระบอก มีปลอกกระสุน 2 ปลอก และกระสุน 1 นัด
สอบสวนนายไพศาลให้การว่า เป็นเพื่อนกับผู้ตายมาก่อน ตนขี่วินรถจักรยานยนต์มาหลายสิบปีแล้ว แต่มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ตนไปบวชประมาณ 5 เดือน ก็ให้เสื้อวินนายสุรเชษฐ์เอาไว้วิ่งวิน เพื่อเก็บเงินซื้อเสื้อวินรถจักรยานยนต์มาใส่ แต่พอตนสึกออกมา นายสุรเชษฐ์มีท่าทีไม่อยากคืนเสื้อวิน และมีปัญหาตลอด ซึ่งเวลาตนเข้าวินมักจะถุยน้ำลายใส่เหมือนหยามศักดิ์ศรี เวลาเขียนคิวนายสุรเชษฐ์ชอบเตะชอล์ก จึงไม่พอใจกันมาอยู่หลายปี จนช่วงหลังตนไม่อยากมีปัญหาก็เลือกที่จะไม่มาเข้าวิน และทำนามบัตรแจกลูกค้า ทำให้นายสุรเชษฐ์ไม่พอใจ ก็มาต่อว่า หาว่าแย่งลูกค้า ตนก็บอกว่าตนทำเพื่อให้ลูกค้าสะดวกสบาย แต่ช่วงหลังมักโดนโทรหลอกให้ไปรับผู้โดยสารในที่เปลี่ยวและพอไปถึง ไม่มีคนและไม่สามารถติดต่อคนที่โทรมาได้ จึงเชื่อว่ามีคนจ้องเล่นงานเลยเอาปืนมาพกติดตัว
จนเช้าวันนี้ตนรับผู้โดยสารเป็นชาวเมียนมา พอวิ่งเข้าซอยคลองดอน ซึ่งมาเจอนายสุรเชษฐ์ขี่จะไปส่งผู้โดยสารอยู่ด้านหน้า ตนพยายามขี่แซงนายสุรเชษฐ์ แต่นายสุรเชษฐ์ไม่ให้แซง ตนคิดว่าน่าจะหลบหลุม พอตนขี่เร่งเครื่องแซง นายสุรเชษฐ์กลับยกขาจะถีบให้รถล้ม ก่อนตะโกนเรียกจอดแล้วเรียกท้าต่อย ตนจอดรถแล้วถามว่าทำแบบนี้ทำไม ก่อนบอกให้ผู้โดยสารรอก่อนแล้วเดินไปหานายสุรเชษฐ์ ซึ่งตนเห็นว่านายสุรเชษฐ์ตัวใหญ่และสู้ไม่ได้ ก่อนชักปืนออกมาจ่อยิง ก่อนที่นายสุรเชษฐ์จะบอกว่าพอแล้ว ซึ่งผู้โดยสารก็บอกว่ามีอะไรก็ใจเย็นๆ ก่อนที่ตนจะยอมเดินกลับไปขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งผู้โดยสารที่โรงงาน ก่อนรีบขี่รถจักรยานยนต์มามอบตัว
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ สภ.บางปะกง น.ส.นันทิยา อิงคะวะระ อายุ 49 ปี ภรรยาและเพื่อนได้เดินทางมาที่โรงพัก เพื่อเข้าให้ปากคำ พร้อมเตรียมเรื่องเอกสารส่งร่างนายสุรเชษฐ์ อ่อนคำ อายุ 54 ปี สามี ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยจะมีการส่งศพไปชันสูตรและผ่ากระสุนออกที่นิติเวช พร้อมทางกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงมาตรวจที่เกิดเหตุ ตรวจคราบเขม่าดินปืนกับผู้ต้องหาและผู้เสียชีวิต เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน
น.ส.นันทิยา เผยว่า ยังทำใจไม่ได้ที่สามีถูกยิงโดยไม่มีเหตุผล และไม่เชื่อว่าสามีจะไปหาเรื่องใคร เพราะสามีเป็นคนดี เป็นคนตรงไปตรงมา ส่วนคนยิงตนก็ไม่รู้จัก แต่รู้ว่ามีปัญหากัน แต่ไม่คิดว่าจะถึงขึ้นยิงกันตาย
นายนิตย์ ติ้นเติม อายุ 55 ปี เพื่อนผู้ตาย เผยว่าผู้ตายเป็นคนดี พูดตรงไปตรงมา แต่รู้ว่าผู้ตายมีปัญหากับนายไพศาล มือปืน ในเรื่องที่นายไพศาลไม่เคยเข้าวิน และมีการแจกเบอร์โทรให้ลูกค้า อีกทั้งยังมีปัญหาเก่าเรื่องเสื้อวินที่ยืมกัน แต่ไม่รู้ว่าเมื่อเช้าเกิดเหตุได้อย่างไร แต่ถ้าผู้ตายท้าต่อย ทำไมถึงไม่ต่อยกัน โดยไม่ต้องใช้อาวุธ ทำไมถึงตัดสินใจยิงทันที เหมือนเตรียมตัวมาพร้อมจะมีเรื่อง
ส่วนทางคดี พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ ผกก.สภ.บางปะกง เผยว่าตอนนี้ได้ตั้งข้อหา 3 ข้อหากับผู้ก่อเหตุ คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.ความผิดพาอาวุธปืน ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควรและเร่งด่วนตามควรแก่พฤติการณ์ 3.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งได้ให้ชุดสืบสวนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อประกอบสำนวนต่อไป
ขอบคุณ เนชั่น/ไทยรัฐ