สสส. เผยเด็กไทยติดเกม 90%

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ดร.ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะเอนก ประธานคณะทำงานขับเคลื่อนประเด็นสื่อออนไลน์กับเด็กและเยาวชน และนายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) กล่าวในเวที “เติมความรักด้วยความรู้…อยู่อย่างไรในโลกออนไลน์” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สสดย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ว่า จากการศึกษาผลกระทบเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการปกป้องและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ปี 2563 ยังพบว่า เด็กร้อยละ 90 เล่นเกมออนไลน์ โดยมากกว่าครึ่งใช้เวลาเล่นมากกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน และร้อยละ 15 เล่นพนันในเกม

 

สสส. เผยเด็กไทยติดเกม 90% พนัน15% ชงจัดเรตติ้งเกม-มีกฎหมายคุมธุรกิจ

 

“ขณะที่เด็กร้อยละ 80 เสนอให้มีการจัดเรตติ้งเกมที่มีประโยชน์ รวมทั้งให้มีกฎหมายควบคุมดูแลธุรกิจเกม เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ และยังมีเรื่องของการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันหาทางออกด้วยวิธีการทางจิตวิทยาที่สร้างสรรค์ ใช้ความรักความเข้าใจจากครอบครัว ในการสร้างภูมิคุ้มกันที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนได้รู้เท่าทันสื่อและอยู่อย่างปลอดภัยในโลกออนไลน์” ดร.ธีรารัตน์ กล่าว

 

 

ด้าน นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและวิถีสุขภาวะทางปัญญา กล่าวว่า สสส. มุ่งส่งเสริมทักษะการเท่าทันสื่อให้แก่พลเมืองทุกกลุ่ม ด้วยการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ใช้และสร้างสรรค์สื่อที่มีความรอบรู้ เท่าทัน ควบคู่ไปกับการสร้างระบบนิเวศสื่อสุขภาวะ ปัจจุบันการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์มีความสัมพันธ์กับสังคมเป็นอย่างมาก จนเสี่ยงเกิดผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพ

 

 

นพ.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า แนวทางการรู้เท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัล จึงเป็นกระบวนการฝึกฝนทักษะการตั้งคำถาม วิพากษ์ วิจารณ์ และนำมาสู่การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ด้วยการเข้าถึง การคิดวิเคราะห์ การสร้างสรรค์และผลิตสื่อ และการใช้ประโยชน์จากสื่อเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นแนวคิดที่เด็กและเยาวชนที่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในโลกออนไลน์ใช้เพิ่มทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ เวทีนี้ถือเป็นโอกาสที่ สสส. และภาคีทุกภาคส่วนร่วมสื่อสารเพื่อสานพลังครอบครัวและบุคคลที่อยู่แวดล้อมตัวเด็ก พร้อมร่วมกันผลักดันและสร้างสรรค์สังคมดิจิทัลไปสู่สังคมสุขภาวะเพื่อเด็ก และเยาวชนต่อไป

 

ขณะที่ ผศ.วีระศักดิ์ พุทธาศรี รองเลขาธิการ สช. กล่าวว่า สื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ เด็กมีพัฒนาการและทักษะการใช้อุปกรณ์ดิจิทัลอย่างรวดเร็ว ทว่าการพัฒนาการรู้เท่าทันสื่อออนไลน์และภัยเสี่ยงในโลกอินเทอร์เน็ต ยังเป็นประเด็นที่ผู้ปกครองและสังคมต้องส่งเสริมและร่วมมือกันในการพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ในโลกออนไลน์

 

 

ผศ.วีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า จากข้อมูลสุขภาพคนไทย ปี 2563 พบว่า กิจกรรมส่วนใหญ่ที่เด็กใช้ในโลกออนไลน์ อันดับแรกเป็นการสื่อสารผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก อาทิ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ แอปพลิเคชั่นไลน์ อินสตาแกรม รองลงมาเป็นการใช้สื่อเพื่อความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง ดาวน์โหลดข้อมูลรูปภาพ รวมทั้งการแบ่งปันข้อมูล ทั้งนี้แม้อินเทอร์เน็ตจะมีประโยชน์เพิ่มการมีโอกาสทางการศึกษาในโลกที่กว้างขึ้น ขณะเดียวกันก็มาพร้อมกับความเสี่ยงในโลกออนไลน์ ดังนั้น ทุกฝ่ายจึงควรมีการเฝ้าระวังและเสริมสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อในสังคมออนไลน์ ก็จะทำให้เกิดคุณได้มากกว่าโทษ