สาวท้อง โดยตำรวจบุกค้นยาเสพติดภายในบ้านยามวิกาล โดยไม่มีหมายตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ได้นำเงินค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ไปด้วย โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้าน
วันที่ 7 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส. เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ว่าถูกตำรวจบุกเข้าไปตรวจค้นยาเสพติดภายในบ้านยามวิกาล โดยไม่มีหมายตรวจค้น และไม่พบยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฏหมายแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าว ได้นำเงินที่ตนเองตั้งใจจะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ไปด้วย โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในบ้าน ที่บ้านเลขที่ 155/3 หมู่ 2 ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้เป็นป้า นางสาวเอ (นามสมมติ) และนายบี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี น้องชาย โดยทั้งหมด เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์
น.ส.เอ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม ตนกำลังนอนพักอยู่ในห้องนอน จู่ๆ ได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน เดินเข้ามาในบ้าน ทำให้ตนตกใจ และถามว่า เข้ามาทำไม แต่ได้รับคำตอบว่า มาตรวจค้น ตนจึงขอดูบัตรและหมายค้น แต่ชายทั้งสองคนสั่งให้นั่งลงดูเฉยๆ และถามหา นายอดิศร ทองมอญ ซึ่งเป็นสามีของตน ที่เพิ่งจะพ้นโทษออกมาจากเรือนจำกลางราชบุรี ในข้อหาพยายามฆ่า เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนได้บอกว่าไม่อยู่
จากนั้น ชายฉกรรจ์ 2 คน ได้พากันออกมาข้างนอก ซึ่งตนยังเห็นผู้ชายอีกหลายคนอยู่ที่หน้าบ้าน กำลังถกเถียงกับ นายบี น้องชายตนอยู่ เนื่องจากน้องชายตนสอบถามว่า มีหมายค้นหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่มี ซึ่งต่อมาจึงทราบว่าชายทั้งหมดนั้นเป็นตำรวจจริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งสอง ได้ให้ตนพาเข้าไปตรวจค้นภายในบ้านอีกครั้ง ซึ่งไม่พบอะไรที่ผิดกฎหมาย แต่ไปพบเงินสดในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง จำนวน 9,500 บาท เจ้าหน้าที่ทั้งสองนาย ถามว่าเงินอะไร ตนจึงบอกว่า เป็นเงินที่ยืมมา จะนำไปเป็นค่าฝากครรภ์ แล้วตนได้วางเงินไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งและเดินออก ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับป้าของตนเดินมาจึงได้เข้าไปนำเงินทั้งหมดมาฝากไว้ที่ป้า แต่เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนกลับถามว่า เงินเมื่อกี้อยู่ไหน ป้าของตนจึงตอบว่า เก็บไว้แล้วที่ตัว เจ้าหน้าที่ทั้งสองจึงสั่งให้ป้าของตนนำเงินมาใส่ในถุง โดยอ้างว่าจะนำไปตรวจเบอร์แบงก์ เนื่องจากได้ทำการล่อซื้อยาไว้
เจ้าหน้าที่ที่มาทั้งหมด ยังได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของลุงไปด้วย ซึ่งทราบต่อมาว่า ตำรวจชุดที่เข้ามาตรวจค้นในวันเกิดเหตุ ได้โทรศัพท์ติดต่อให้ลุงนำเงิน จำนวน 30,000 บาท ไปเคลียร์คดี ทางลุงของตนจึงได้ให้สามีของตนนำเงินจำนวน 30,000 บาท ไปให้ จากนั้น จึงพากันไปแจ้งความในข้อหาบุกรุกในยามวิกาล และลักทรัพย์ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมด ที่ สภ.เขาดิน อ.โพธาราม ซึ่งมาทราบภายหลังอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปตรวจค้น เป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธาราม ไม่ใช่ตำรวจ สภ.เขาดิน ที่รับผิดชอบพื้นที่ ทำให้คนในครอบครัวไม่พอใจ และจะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะถือว่า ทำเกินกว่าเหตุ และนำเงินของตนไปด้วย แต่ต่อมาเมื่อตนไปแจ้งความ ทางตำรวจได้ติดต่อนำเงินจำนวน 9,500 บาทมาคืนให้ โดยนำไปฝากไว้กับแม่ของตนที่อยู่ที่ ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม และแม่ได้โทรศัพท์มาบอกภายหลังจากที่ได้แจ้งความไปแล้ว
ด้านนายอดิศร ทองมอญ อายุ 21 ปี สามีของ น.ส.เอ บอกว่า วันเกิดเหตุนั้นตนออกไปธุระนอกบ้าน และมาทราบข่าวภายหลังจากที่ตำรวจกลับไปแล้ว และทางลุงได้โทรมาบอกว่า ให้หาเงินจำนวน 30,000 บาท ไปเคลียร์คดี ตนไม่อยากจะมีปัญหาจึงได้หยิบยืมเพื่อนเพื่อเอาไปให้ และมาทราบทีหลังว่าทางตำรวจยอมคืนเงินมาให้ทั้งหมด หลังทราบว่าทางฝ่ายตนไปแจ้งความที่ สภ.เขาดิน แล้ว
ด้าน พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข ผบก.ภ.จว. ราชบุรี เปิดเผยว่า หลังได้รับรายงานเรื่องทั้งหมด ได้ให้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เขาดิน เร่งสอบสวนสืบสวนหาพยานหลักฐาน ส่วนตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ได้เข้าไปในบ้านของผู้เสียหายนั้น ได้ให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ซึ่งในเรื่องของคดี จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณ ไทยรัฐ