เมียสุดโหด ทิ้งศพเปลือยคาห้องน้ำ ก่อนโทรไปบอกพ่อว่า ฆ่าผัวตาย และสวมรอยเล่นเฟซบุ๊กอวดรูปศพ

เมียสุดแค้น จับได้ว่าผัวมีกิ๊ก เมีนกรีดที่หน้าอก ที่ใบหน้า ลำคอ กว่า 10 แผล นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในสภาพเปลือยกายอยู่ในห้องน้ำ 

 

400272

 

เวลา 01.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุฆาตกรรม เหตุเกิดภายในบ้านพัก หมู่บ้านเดอะมิกซ์ ชาเล่ต์ หมู่ 5 ต.บางละมุง อ.บางละมุง ไปที่เกิดเหตุพบเป็นทาวน์โฮมสองชั้น

 
 

เจ้าหน้าที่ตำรวจพบคราบเลือดหยดเป็นทางจากด้านในตัวบ้านยาวจนถึงหน้าประตูรั้ว ตามฝาผนังบ้าน ราวบันได ตั้งแต่ชั้นบนลงมาจนถึงชั้นล่าง มีคราบเลือดติดไปจนถึงห้องน้ำ มีร่างนายบุรินทร์ บำรุงผล หรือเก่ง อายุ 23 ปี อาชีพชิปปิ้งท่าเรือ ถูกของมีคมกรีดที่หน้าอก ที่ใบหน้า ลำคอ นอนเสียชีวิตจมกองเลือดในสภาพเปลือยกายอยู่ในห้องน้ำ ตามผนังมีเลือดสาดกระเซ็นติดไปทั่ว ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง โดยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดชลบุรีมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงที่ร่างผู้เสียชีวิตและในที่เกิดเหตุ

 
102202
 

สอบถาม น.ส.นา (นามสมมติ) เล่าว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ภรรยาของนายเก่ง คือ น.ส.อรัญญา เสริมทรัพย์ หรือโบว์ อายุ 24 ปี ได้โทรศัพท์มาหาเล่าให้ฟังว่า นายเก่งออกไปข้างนอกมีรถเก๋งมารับ คาดว่าน่าจะเป็นผู้หญิง และเป็นกิ๊กของนายเก่ง ตนพยายามสอบถามว่ารู้ได้อย่างไร ได้คำตอบว่าเห็นรถ ส่วนนายเก่งได้ไลน์มาขอนอนพักที่บ้านด้วย แต่ตนได้ปฏิเสธ บอกให้นายเก่งนอนกับเมียไป ตั้งแต่ประมาณหนึ่งทุ่ม แต่นายเก่งก็ไม่ได้อ่านไลน์ จนได้รับโทรศัพท์จากน้าของโบว์ว่าให้เข้ามาดูเก่งที่บ้านหน่อย เพราะโบว์โทรศัพท์ไปบอกกับพ่อว่าลงมือฆ่าสามีตัวเองตายอยู่ในห้องน้ำ ให้รีบมาดูให้หน่อย

 
907640
 

จากนั้นได้มี นายยอด ภาคลำเจียก อายุ 42 ปี ซึ่งเดินทางมาดูนายเก่ง เผยว่า หลังทราบเรื่องก็รีบมาดู พบว่าประตูรั้วล็อกจากด้านนอก จึงงัดและพังประตูบ้านเข้าไป พบร่างของนายเก่งนอนจมกองเลือดในห้องน้ำ สภาพถูกของมีคม มีบาดแผลที่หน้าอก ใบหน้า ลำคอ กว่า 10 แผล ยังพบคราบเลือดเป็นทางยาวไปจนถึงชั้นบน จึงขึ้นไปดู เพราะเกรงว่าฝ่ายหญิงจะเป็นอันตรายด้วย แต่ก็ไม่เจอ นอกจากนี้ยังได้รับการเปิดเผยจากเพื่อนบ้านอีกว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกัน เสียงผู้ชายร้องขอให้ปล่อย ให้พอ และเสียงผู้หญิงร้องไห้เป็นระยะ จนกระทั่งมาทราบภายหลังว่าผู้ชายเสียชีวิตแล้วตอนที่มีคนมาเปิดบ้าน

 

เบื้องต้น พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล ผกก.สภ.บางละมุง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นภรรยาของผู้ตาย อยู่กินกันมาประมาณ 3 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน เป็นผู้ชายอายุประมาณ 1 ขวบครึ่ง และคนเล็กเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 3 เดือน ปมเหตุคาดว่าน่าเกิดจากความหึงหวง คิดว่าฝ่ายสามีไปมีหญิงอื่น จึงสั่งให้ชุดสืบสวนกระจายกำลังติดตามตัวแล้ว ทราบว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีไปรักษาตัว เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ

 

360739

 

พ.ต.อ.ศักดิ์ชาย สุวรรณนุกูล ผกก. สภ.บางละมุง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 6 ปาก อาทิ ญาติที่เข้าไปเจอศพ, แม่คนตาย, เพื่อนบ้าน และญาติคนก่อเหตุ โดยพุ่งเป้าไปที่ประเด็นหึงห่วง เพราะข้อมูลจากพยานทั้งหมดยืนยันว่ามีประเด็นชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน แล้วมีการก่อเหตุแทงกันเกิดขึ้นภายในบ้าน ซึ่งหลังจากก่อเหตุแล้วฝ่ายหญิง ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างคราบเลือดที่ติดอยู่ในร่างกายออก จากนั้นก็ได้ขี่รถมุ่งหน้าไปที่ตัวเมืองชลบุรี เพื่อไปรับการรักษาบากแผลที่ข้อเท้าซ้าย เพราะเอ็นข้อเท้าขาด มีแผลเปิดกว้าง

 

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่า แผลที่อยู่ในร่างกายของฝ่ายหญิง เป็นแผลที่เกิดจากเหตุทะเลาะวิวาท เพราะอาจจะเกิดจากแรงจูงใจของฝ่ายหญิงที่จงใจฆ่าตัวตายตาม ดังนั้นหากเทียบกับคราบเลือดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เลือดของฝ่ายชายจะมีลักษณะแห้งและแข็งตัว แต่เลือดอีกจุดยังมีลักษณะเป็นของเหลว จึงเชื่อได้ว่าอาจมีเลือดไหลหลังจากที่ฝ่ายชายตายไปได้หลายชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องรออายัดตัวผุ้ก่อเหตุ แล้วให้รับการรักษาตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา จากนั้นจะนำตัวมาสอบปากคำอีกครั้ง โดยเบื้องต้นได้มีการออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

 

จากการสอบปากคำของพยาน ทราบว่าเวลา 15.30 น. ทั้งคู่มีปากเสียงกัน จากนั้นไม่นานก็มีการลงมือทำร้ายร่างกายและก่อเหตุขึ้น ส่วนฝ่ายหญิงก็ได้โทรศัพท์ไปบอกกับพ่อของตัวเอง เพื่อสารภาพว่าฆ่าสามีตัวเอง และพ่อของฝ่ายหญิงก็ได้โทรศัพท์ไปแจ้งแม่ของฝ่ายชาย กระทั่งประสานมายังญาติอีกหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน เพื่อเข้าไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่พบตัวฝ่ายหญิงแล้ว จึงได้พังประตูเข้าไปในบ้าน จึงพบว่าฝ่ายชายนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องน้ำ 

 
 
cg1
 

ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางละมุง ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน เพื่อดูรถต้องสงสัยของน.ส.โบว์ หลังจากที่มีการก่อเหตุแล้วขี่รถหลบหนีช่วงเวลาใด และดูความเคลื่อนไหวของฝ่ายชายก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายสืบสวนกำลังหาข้อมูล ยังไม่พบความเคลื่อนไหวและความผิดปกติ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเพียงรถของฝ่ายหญิงที่ขี่เข้าหมู่บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. ซึ่งฝ่ายหญิงขี่รถของฝ่ายชายออกไปชื้อของ


625675


ทีมข่าวยังได้เดินทางไปพบกับ นายสมโภชน์ บำรุงผล หรือ ไข่ อายุ 39 ปี น้าของคนตาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุตนได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว เวลาประมาณ 22.00 น. พบว่าบ้านปิดเงียบ จึงได้มีการตะโกนเรียกคนด้านในออกมาเปิดประตู พร้อมทั้งโทรศัพท์หาหลานชาย แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับ และที่สำคัญไม่เจอน.ส.โบว์คนก่อเหตุ ตนจึงได้ตัดสินใจพังประตูเข้าไป พบว่าหลานชายนอนกลายเป็นศพอยู่ในห้องน้ำชั้นล่าง และมีเลือดเปื้อนทั่วบ้าน


ย้อนกลับไปก่อนที่จะเกิดเหตุ ตนยอมรับว่าหลานชายกับ น.ส.โบว์ มีเรื่องทะเลาะกันมาพักหนึ่ง เพราะเกิดจากอารมณ์ร้อนของน.ส.โบว์ ประกอบกับความหึงหวงคิดไปเอง เพราะนับตั้งแต่ที่น.ส.โบว์ตั้งครรภ์ ก็คิดว่า หลานชายตนจะไปมีหญิงอื่น จึงได้ชวนทะเลาะ และมักจะสร้างเรื่องขึ้นมาหลายอย่าง ให้เกิดความเห็นใจ อยากให้ฝ่ายชายเข้ามาดูแล โดยอ้างว่าเป็นโรคต่าง ๆ นานา หรือแม้กระทั่งอ้างว่าป่วยโควิด-19 ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง


775410


โดยทั้งหมดเป็นเพียงแค่อุบาย ต้องการให้หลานชายของตนเข้าไปดูแลและเอาอกเอาใจ แต่ที่ผ่านมาแม้ว่าน.ส.โบว์จะเป็นคนแบบนี้ หลานชายก็ไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้ง เพราะยังคงทนอยู่เนื่องจากสงสารลูก 2 คน (อายุ 1 ปี 6 เดือน และอายุ 3 เดือน) และก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ น.ส.โบว์กับหลานชาย มีเรื่องกัน แล้วน.ส.โบว์ ในฐานะลูกจ้างในบริษัทของตนทำงานฝ่ายบัญชี ได้ขาดงาน และไม่มาช่วยงานบริษัท 1 เดือน แต่ด้วยว่าน.ส.โบว์เป็นหลานสะใภ้ ประกอบกับธุรกิจที่ทำเป็นธุรกิจครอบครัว ตนก็ไม่ได้สอบถามสาเหตุว่าทำไมถึงขาดงาน แล้วมีการจ้างพนักงานคนอื่นมาทำงานแทน แต่ก็ยังจ่ายเงินเดือนตามปกติ และยังทราบว่าช่วงดังกล่าว น.ส.โบว์ ยื่นคำขาดให้กับหลานชายว่า “วันเกิดเหตุ วันจันทร์ 3 พ.ค.64 จะย้ายออกจากบ้าน เพื่อกลับไปอยู่กับพ่อแม่ แล้วจะทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ลักษณะต่างคนต่างอยู่ และถ้าหากวันใดเข้าใจกันแล้วจะกลับมาอยู่ด้วยกันตามปกติ” ซึ่งทีแรกตนก็คิดว่าเคลียร์ใจกันเข้าใจแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นวันที่ก่อเหตุฆ่าหลานชาย


นายสมโภชน์ กล่าวด้วยว่า ในวันที่เกิดเหตุตนได้เข้าไปภายในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเข้าไปดูทุกจุด พบว่าจุดที่เป็นกองเลือดของหลานชาย ทั้งภายในห้องนอนและห้องน้ำ เป็นเลือดที่แห้งสนิท และคาดว่าหลานชายเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงบ่าย ๆ แล้ว ส่วนกองเลือดที่ยังมีความสดและไหลเป็นน้ำ จะมีอยู่บริเวณโต๊ะทำงานชั้นล่าง ประกอบกับทางเดินเพื่อจะไปที่รถมอเตอร์ไซค์ ดังนั้นในฐานะญาติจึงตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่หลานชายถูกฆ่าตายแล้ว น.ส.โบว์ ตั้งใจที่จะทำร้ายตัวเอง ตนจึงเชื่อว่าหลานชายไม่ใช่คนทำร้ายผู้หญิง และช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 4 เดือน หลานชายก็เพิ่งจะถูกฝ่ายหญิงใช้มีดทำร้ายร่างกายศีรษะแตก


อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะญาติที่เข้าไปภายในบ้านหลังเกิดเหตุ ยืนยันว่าที่น.ส.โบว์ มีบาดแผลบริเวณข้อเท้าซ้าย เชื่อว่าเกิดทำร้ายร่างกายตัวเอง ไม่ได้เกิดจากการต่อสู้ เพราะตนเห็นอุปกรณ์สำหรับทำแผลตกหล่นอยู่ในบ้าน ก่อนที่น.ส.จะขี่รถหลบหนีแล้วไปรักษาที่โรงพยาบาล เลือดของน.ส.โบว์ จึงยังสด ๆ และเป็นน้ำในบางจุด


491314


ขณะเดียวกัน ทีมข่าวยังได้เจอกับ น.ส.กฤษณา ฟักสุขจิตร์ หรือ จ๋า อายุ 34 ปี เพื่อนร่วมงานของน.ส.โบว์ เปิดเผยว่า ตนในฐานะคนที่รู้จักกับผู้ก่อเหตุ เขาเป็นคนที่อารมณ์ร้อน และมักจะสร้างเรื่องราวต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อเรียกร้องความสนใจ โดยก่อนที่จะขาดงาน เขาอ้างว่าป่วยหลาย ๆ อย่าง ทั้ง HIV, โควิด-19 ทำให้ต้องส่งตัวไปตรวจ แต่ผลก็ไม่ปรากฏว่าป่วย


349515


ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า ในวันดังกล่าวนายเก่งถูก น.ส.โบว์ ฆ่าตายตั้งแต่เวลา 15.30 น. เพราะไปตรงกับข้อมูลของเพื่อนบ้านที่ได้ยินเสียงของนายเก่ง ร้องขอความช่วยเหลือ และขอให้น.ส.โบว์ หยุดทำร้ายร่างกาย แต่ในทางกลับกันเชื่อว่าหลังจากที่นายเก่ง โดนฆ่าตายแล้ว ฝ่ายหญิงได้แชตมาพูดคุยกับตน โดยคำแรกที่ทักมาคือคำว่า “พี่” ซึ่งตนก็พยายามโทรกลับไป แต่ปลายสายไม่รับ และตนก็ออกอุบายว่า “ไม่ว่างติดโควิด” เพื่อเรียกความสนใจให้นายเก่งโทรกลับมา เพราะเจ้าตัวมักจะสนใจและห่วงใยคนอื่นเสมอ แต่สุดท้ายก็ไม่มีการโทรกลับมา แต่เลือกพิมพ์ข้อความพูดคุยกับตน


กระทั่งเวลา 17.39 น. ข้อความในไลน์ของนายเก่ง ก็เด้งมาอีกครั้ง “เดี๋ยวผมไปหาพี่” ซึ่งตนก็เข้าใจว่า ตอนนั้นคือนายเก่ง ตนจึงตอบกลับไปว่า “ไม่” และพยายามโทรกลับ แต่ปลายสายก็ไม่รับเหมือนเดิม จึงได้ส่งข้อความไป “กูพูดเรื่องจริง เป็นไรไม่รับสาย” แต่ในขณะที่โทรไปไม่รับสาย แชตของนายเก่งก็ตอบกลับมาว่า “ผมเบื่อ” ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้ส่งนิ้วกลางเป็นภาพนิ่ง แล้วนายเก่งก็ตอบกลับอีกครั้งว่า “ประสาทแดก” ตนจึงได้พยายามติดต่อเพื่อให้นายเก่งรับสาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีการตอบกลับ


550679


ในวันดังกล่าว ตนสังเกตว่าช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. เฟซบุ๊กของนายเก่ง ยังโพสต์ภาพ 2 ภาพ คือ ถนน และภาพเซลฟี่ ซึ่งสื่อความหมายว่ากำลังจะไปทำงาน แต่ตนสงสัยว่าในวันดังกล่าวนายเก่งบอกว่าเป็นวันหยุด ตนจึงสงสัยและเริ่มแปลกใจมากยิ่งขึ้น จึงได้โทรหาน.ส.โบว์ แต่ไม่รับสาย แล้วตนก็ถามว่านายเก่งไปไหน ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ น.ส.โบว์ อ้างว่านายเก่งออกไปทำงาน ตนจึงได้ออกอุบายถามว่า นายเก่งออกจากบ้านสวมใส่เสื้อหรือชุดอะไร ซึ่งน.ส.โบว์ อ้างว่าสวมใส่เสื้อสีเทา จากนั้นตนจึงเอาไปเทียบกับภาพที่อยู่ในเฟซบุ๊ก จึงเข้าใจว่าภาพดังกล่าวเป็นคนละเหตุการณ์ และข้าใจว่าน.ส.โบว์ เป็นคนโพสต์ภาพหลังจากที่ก่อเหตุแล้ว เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้ใครสงสัย


364094


น.ส.กฤษณา ยังบอกอีกว่า ตนในฐานะคนที่พูดคุยอยู่กับนายเก่งตัวปลอม ซึ่งคาดว่าน.ส.โบว์เป็นคนแชต มีเจตนาที่ต้องการเบี่ยงเบนความสนใจ เพราะกลัวว่าจะมีคนสงสัย กลัวว่าจะมีคนมาที่บ้าน จึงได้ทักข้อความหรือมีการโพสต์เพื่อสร้างเรื่อง ก่อนที่จะมีการหลบหนี และก่อนที่เจ้าตัวจะหลบหนี ยังได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า “เวรกูละ” ซึ่งเป็นข้อความสุดท้ายในวันดังกล่าว ช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. โดยตนจึงจับต้นชนปลาย และรู้เหตุการณ์ว่าคนที่คุยเกี่ยวกับตนทั้งหมด คือ นายเก่งตัวปลอม เพราะเจ้าตัวถูกฆ่าตายตั้งแต่เวลาช่วงบ่ายแล้ว


673105


นางจิณ์ณิชา บำรุงผล อายุ 48 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ส่วนตัวยอมรับว่าที่ผ่านมาลูกชายและลูกสะใภ้มีปัญหากันมาสักพักหนึ่งแล้ว เนื่องจากน.ส.โบว์ ลูกสะใภ้ เป็นคนที่หึงหวงและชอบคิดไปเอง ลูกชายจึงเกิดความเบื่อหน่าย และมักจะทะเลาะมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง แต่ลูกชายก็ไม่เคยคิดที่จะไปจากชีวิตของน.ส.โบว์ เพราะห่วงเรื่องของลูก 2 คน กลัวว่าหากพ่อแม่ทะเลาะหรือแยกทางกัน ลูกจะขาดความอบอุ่น นายเก่ง ลูกชายของตนก็พยายามดูแล และคอยเข้าใจลูกสะใภ้มาโดยตลอด


611482


แม้ว่าหลายต่อหลายครั้ง น.ส.โบว์จะเอาแต่ใจ แล้วทำร้ายร่างกายลูกชายต่อหน้าตน แต่ตนก็ไม่เคยเห็นลูกชายทำร้ายน.ส.โบก่อน ดังนั้นตนกล้ายืนยันว่าลูกชายเป็นคนที่ไม่ทำร้ายน.ส.โบว์อย่างแน่นอน แต่ในวันดังกล่าวน.ส.โบว์ จงใจที่จะฆ่าลูกชายของตน เพราะเกิดจากความหึงหวงและกลัวจะไปมีคนอื่น


403823


ในวันเกิดเหตุตนพยายามติดต่อลูกชาย และเป็นเรื่องปกติที่โทรศัพท์หากันทุกวันก่อนจะเข้านอน เพราะต้องการที่จะให้ลูกชายกับหลาน ๆ ได้คุยกับพ่อก่อนนอนทุกวัน แต่ในวันดังกล่าวช่วงเวลาประมาณ 20.00น. ตนได้โทรผ่านแชตเฟซบุ๊ก แต่ก็ไม่มีคนรับสาย ไม่นานก็ได้มีแชตตอบกลับมาว่ากำลังทำงานอยู่ ตนจึงไม่ได้รบกวนอะไร จากนั้นพ่อของน.ส.โบว์ โทรศัพท์มาบอกตนว่า น.ส.โบว์ได้ฆ่าลูกชายตนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านแล้ว แต่น.ส.โบว์ ได้พยายามสร้างเรื่อง ก่อนจะส่งแชตถ่ายรูปศพไปบอกญาติของตน


225036


น.ส.จิณ์ณิชา กล่าวอีกว่า หลังจากที่เกิดเหตุ แม่ของน.ส.โบว์ ได้พยายามโทรกลับมา แล้วพูดคำว่า “ขอโทษ” โดยตนยอมรับว่าทำใจไม่ได้ที่จะคุยกับครอบครัวของน.ส.โบว์ เพราะเท่ากับว่ามีคนมาทำร้ายดวงใจของตนไปแล้ว มากไปกว่านั้นแม้ว่าน.ส.โบว์ จะเป็นแม่ของหลาน 2 คน แต่ในเมื่อตัดสินใจที่จะฆ่าลูกชายของตนอย่างเลือดเย็นแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมาดูแลหรือให้อภัยกันอีก ตนก็คงจะต้องทำหน้าที่ดูแลหลาน ๆ และปล่อยให้น.ส.โบว์ ไปชดใช้เวรกรรมในคุก


 

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/อมรินทร์ทีวี