เมื่อเวลา 17.00 น วันที่ 4 พฤษภาคม 2563 ร.ต.อ. พลชัย กุมขุนทด รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางพลีน้อย สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่บริเวณถนนทางหลวงชนบทสาย สป 5004 บางพลีน้อย-คลองนิยมยาตรา ตำบลคลองนิยมยาตรา อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพเด็กชาย ภาคินทร์ ซักผลงาม อายุ 16 ปี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ใต้รั้วเหล็กราวกั้นทาง ในสภาพซี่โครงหักหลายซี่ กระดูกต้นขาขวาโผล่ กลางอกพบบาดแผลจากการกระแทกกับรั้วเหล็ก และคอหักเสียชีวิต ส่วนผู้บาดเจ็บอีกราย เป็นเด็กชายวัย 15 ปี ร่างกระเด็นตกจากจักรยานยนต์มูลนิธิได้ช่วยนำรักษาที่ส่งโรงพยาบาลบางบ่อไปก่อนแล้ว ห่างกันประมาณ 50 เมตร ได้พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า โซนิค สีดำ ทะเบียน กธจ 760 นครนายก ล้มคว่ำอยู่ข้างถนน และห่างกันออกไปอีกประมาณ 100 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟสีดำ ทะเบียน 2 กล 4281 ชลบุรี ล้มคว่ำอยู่กลางถนนเช่นกัน
ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุมารดาของผู้ตายวัย 32 ปี ที่ทราบข่าวและเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพลูกถึงกับเป็นลมล้มพลับกองกับพื้นร้องไห้ปานจะขาดใจ เจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้านต้องช่วยประคองมานั่งพักและดมยาที่ท้ายรถกู้ภัย ในที่เกิดเหตุยังพบกลุ่มเยาวชนอายุ 14-17 ปี กว่า 10 คน ซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มกับผู้ตายที่มักชอบชวนกันออกมารวมตัวกัน ได้พากันมามุ่งดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามเพื่อนของผู้ตายที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนและคนเจ็บรวมทั้งคนตายได้รวมกลุ่มกันประมาณ 4 คัน ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์ออกมาประลองความเร็วบนถนนสายนี้ ซึ่งปกติก็ออกมากันเป็นประจำทุกวัน และวันนี้เป็นการจับคู่แข่งระหว่างคนเจ็บและคนตาย โดยทั้งคู่ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประลองความเร็วกัน ส่วนตนขี่ตามหลังมา จังหวะที่คู่กำลังจะขี่แซงกันตรงช่วงทางโค้งรถได้เสียหลักเกี่ยวกันเอง จนทำให้รถทั้งสองคันสะบัดเสียหลักพุ่งอัดกับรั้วเหล็กข้างทางจนร่างกระเด็นตกรถและนอนแน่นิ่งส่วนรถก็กระเด็นไปข้างหน้าอย่างไกล ตนจึงรีบจอดลงมาดูและโทรแจ้งผู้ปกครองและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
ด้านมารดาของผู้ตาย ได้เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน คนตายเป็นลูกคนโต ที่ผ่านมายอมรับว่าลูกแอบออกมาแข่งรถบ่อย ตนก็ไม่ค่อยมีเวลาเพราะต้องทำงานทุกวันกว่าจะเลิกงานก็เย็นค่ำเพราะต้องหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ส่วนสามีเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตนก็คอยว่ากล่าวตักเตือนลูกมาตลอดไม่ให้ออกมาแข็งรถแต่ก็ไม่เคยจะเชื่อฟังจนกะทั่งมาเกิดเหตุในที่สุด
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้ออกมาเปิดเผยว่าถนนสายนี้ทั้งกลางวันและกลางคืนมักจะมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากมาพากันออกมาแข่งขันกันในทางอยู่เป็นประจำ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ พอแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกว่าจะมาถึงก็แยกย้ายกันไปแล้ว บ้างทีมาถึงก็ทำได้แค่เปิดไฟวับวาบไล่พอตำรวจไปก็กลับมารวมตัวแข่งกันอีก ชาวบ้านจึงฝากไปยังผู้กำกับ สภ.บางพลีน้อย ให้กวดกันจับกุมอย่างจริงจังเพื่อสร้างความสุขและความปลอดภัยให้กับชาวบ้านในพื้นที่