อัจฉริยะ เปิดหลักฐาน แตงโมไม่ได้ตกจากท้ายเรือ ด้านผบช.ภ.1 ยันไม่พบเหตุฆาตกรรม

อัจฉริยะ เปิดหลักฐานคดีแตงโม ตกเรือเสียชีวิตเป็นเหตุฆาตกรรม แฉมีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ อ้างแตงโมไม่ได้อยู่ท้ายเรือ เชื่อเป็นฆาตกรรม เพราะเกิดจากเมาและมีอารมณ์ทางเพศ ชี้พิรุธในคดี 2 ประเด็น  ด้านผบช.ภ.1 ยืนยันไม่พบเหตุฆาตกรรม มีหลักฐานตอบทุกข้อสงสัยที่อัจฉริยะสงสัย

 

 

 

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ รร.อัณณา นาวา ปากเกร็ด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ จัดแถลงข่าว กรณีเปิดหลักฐาน แตงโม ไม่ได้ตกท้ายเรือ และข้อพิสูจน์ว่าตำรวจ มีความผิด ฐานปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ ม.157 ว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถตอบเรื่องบาดแผลข้างขวา ซึ่งเคยออกมาระบุว่า ไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิตได้ โดย พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์” อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้วิเคราะห์ สรุปได้ว่า เกิดจากของที่คมมาก หรือ ถ้าเกิดในแม่น้ำจะพุ่งกระจายหยุดยาก ชมรมฯ เห็นด้วยกับบทความนี้ ว่า แผลขวาด้านใน ไม่สามารถเกิดจากใบพัดหรือฟินเรือได้

 

"อัจฉริยะ" แฉคดี "แตงโม" มีขบวนการสร้างหลักฐานเท็จ มั่นใจเป็นการ "ฆาตกรรม"

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มีกระบวนการสร้างหลักฐานเป็นเท็จ มีเจ้าหน้าที่รัฐขายข้อสอบให้ขบวนการเหล่านี้ เพื่อทำหลักฐานใหม่ให้สอดรับกับคนบนเรือ และมั่นใจว่า แซน เป็นคนให้การเท็จ

 

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ได้เปิดคลิปหลักฐาน ระหว่างเรือกำลังเติมน้ำมัน ซึ่ง แตงโม และ กระติก กำลังหวีผมบนเรือ พร้อมระบุว่า การหวีผมต้องมีรากผม หรือ ไม่มีรากผมบนเรือ จากนั้น ได้เปิดไทม์ไลน์การเก็บหลักฐานของเจ้าหน้าที่พบว่า การเก็บหลักฐานครั้งแรกวันที่ 26 ก.พ. ไม่เจอเส้นผม ครั้งที่ 2 เก็บหลักฐานวันที่ 27 ก.พ. ไม่พบเส้นผม และหารอยเลือด

 

 

จากนั้น วันที่ 1 มี.ค. พนักงานพิสูจน์หลักฐานเข้ามาเก็บหลักฐานตามที่พนักงานสอบสวนสั่ง พบเส้นผมจำนวนหนึ่ง โดยพบเส้นผม 1 เส้นที่ท้ายเรือบริเวณที่กาบเรือส่วนใต้น้ำ เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมเส้นผมทุกเส้นที่พบอยู่ท้ายเรือ และทำไมจึงไม่พบในการเก็บเส้นผมครั้งแรกทั้งที่เจ้าหน้าที่จำนวนมาก คิดว่าเป็นไปได้หรือไม่

 

 

“ผมมีหลักฐานยืนยันว่า แตงโม ตกหัวเรือ มีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์อีก 2 ชิ้น ว่า แซนนั่งอยู่ตำแหน่งไหนของเรือกันแน่ และมีกล้องวงจรปิดที่แซนนั่งอยู่ท้ายเรือ 22.32 น. 14 วินาที แต่จริงๆ นั่งอยู่ท้ายเรือ 22.06 น.ตามที่ปรากฏภาพในโหนกระแส ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ตำรวจเอาแซนมาเป็นตัวตั้งในการทำคดี โดยพบว่า มีภาพวงจรปิดเวลาเดียวกับตำรวจ 22.32.10 น. แตงโม มานั่งท้ายเรือยองๆ แต่ไม่ได้ตกเรือ โดยเดินกลับเข้าไปในเรือ โดยพี่ชายแตงโม ดายศ ได้เห็นและเข้าใจแล้ว” นายอัจฉริยะ กล่าว

 

 

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ ได้เปิดคลิป ซึ่งเคยมีการเปิดเผยไปแล้วก่อนหน้านี้ เป็นบริเวณ กฝผ. โดยอธิบายว่า บริเวณท้ายเรือ มีเงาขยับตามท้ายเรือไปเรื่อย จากนั้นเงาได้หายไปจากบริเวณท้ายเรือ ซึ่งมีความแตกต่างกัน เมื่อมีอะไรตกน้ำตามคำให้การ ต้องตกลงไปด้านซ้าย แต่เงามีลักษณะหายเข้าไปในเรือ ทำให้พบได้ว่า ไม่เป็นไปตามที่แซนพูด ว่า แตงโมตกเรือ และยังพบว่ามีไฟในเรือหนึ่งดวง หากมีคนเดินผ่านไฟจะหายไป ซึ่งก็พบว่าไฟดวงนั้นหายไปสอดคล้องกับจังหวะที่แตงโมเดินเข้าไปบนเรือ

 

 

“พรุ่งนี้จะเดินทางไปแจ้งดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ทั้งหมด ที่ปล่อยให้มีการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จสอดคล้องกับคำให้การคนบนเรือ และในวันที่ 26 เม.ย.จะมีการแถลงและเปิดหลักฐานในวันเดียวกับที่มีการแถลงปิดคดี

 

เพื่อให้รู้ว่า การที่แตงโม ตกหัวเรือใครเป็นคนทำ มีแพทย์ชื่อดังของไทยยืนยันได้ว่าบาดแผลนี้ตกที่หัวเรือ และมีหลักฐานดีเอ็นเอ ว่า แตงโม อยู่หัวเรือตลอด ส่วนแซนอยู่ตรงไหนของเรือ ซึ่งพบว่าแซนมานั่งหลังคนขับเรือเพราะเจ็บตา แสดงว่า แซน โกหกมาตลอด สิ่งที่ทำเพื่อความยุติธรรมของแตงโม ไม่ใช่ว่า จะต้องเป็นดาราที่เสียชีวิตเพราะไปปัสสาวะท้ายเรือ” นายอัจฉริยะ กล่าว

 

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า มั่นใจว่าคดีดังกล่าวเป็นการฆาตกรรมที่ เกิดจากความเมาและมีอารมณ์ทางเพศ ไม่ใช่อุบัติเหตุ ซึ่งสอดคล้องกับกล้องวงจรปิดในเวลา 22.30 น. มีผู้ชายคนหนึ่งที่ตัวเองนั้นไม่ได้มีฐานะรวย แต่ภรรยารวย ได้เดินไปซ้อนทางข้างหลังของแตงโม ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่แตงโมตกเรือ

 

 

ต่อมาเมื่อเวลา 13.40 น.วันที่ 20 เมษายน ที่ ตำรวจภูธรภาค 1 (ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวชื่อดัง ว่า ในวันที่ 26 เมษายนนี้ เวลา 13.00 น. พนักงานสอบสวนเตรียมแถลงปิดคดีการเสียชีวิตของแตงโม จากนั้นจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวน ทำการส่งฟ้องต่ออัยการ โดยมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีในขณะนี้ว่าสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ซึ่งการรวบรวมพยานหลักฐานนั้น ได้มีการทำในรูปของคณะกรรมการตั้งแต่วันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นเวลากว่า 1 เดือน จึงเชื่อมั่นในพยานหลักฐานทั้งหมดที่มี

 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 26 เมษายน จะมีการชี้แจงทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้น ในประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเหตุการณ์, เรือลำเกิดเหตุ, ความผิด, อัตราโทษ, ข้อเท็จจริง, ไปจนถึงประเด็นการปัสสาวะ

 

โดยขณะนี้ พยานหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าเป็นความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกาย เนื่องจากบาดแผลตามร่างกายนั้นเข้ากับใบพัดเรือ จึงมีความเห็นสรุปสำนวนเช่นนี้ และมั่นใจว่าสามารถชี้แจงให้ประชาชนหายสงสัยได้ อย่างไรก็ตาม หากอัยการมีข้อสงสัยที่ต้องการให้สอบสวนเพิ่มเติม ตำรวจก็ยินดี

 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำหลักฐานใหม่มามอบให้กับพนักงานสอบสวนนั้น ตำรวจก็ยินดีรับฟัง และรวบรวมหลักฐานเข้าสู่สำนวน แต่หากเป็นหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่แล้ว ก็จะรับไว้ตามแต่ละประเด็น ทั้งนี้ เชื่อว่าหลักฐานดังกล่าวเป็นหลักฐานที่ตำรวจมีอยู่แล้ว และอยากฝากถึงประชาชนว่า การทำงานในรูปของคณะกรรมการที่มีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง รวมถึงพนักงานสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน จะมีน้ำหนักมากกว่าหลักฐานของคนคนเดียวหรือไม่

 
 
 
 
 
ขอบคุณข่าวสด/ThaiPBS