เฉลยแท่งปริศนา หลังทำผู้โดยสารผวา วิน จยย.เหน็บไว้ข้างหลัง

สาวโพสต์เตือน วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เหน็บ”แท่งปริศนา” ไว้ด้านหลังพอดีเป้าผู้โดยสาร คนขับวินเฉลยที่แท้คืออะไร แบบนี้ใช่หรือ?

 

 

 

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เตือนภัย ขณะที่กำลังนั่งวินจักรยานยนต์รับจ้างคันหนึ่ง สังเกตเห็นท่าทีของคนขับที่ค่อนข้างมีพิรุธ ทั้งขยับกระจกและขยับตัวตลอดเวลา เมื่อก้มไปมองบริเวณด้านหลังของกางเกงคนขับ ก็พบว่ามีอุปกรณ์บางอย่างลักษณะเป็นแท่งยื่นออกมา นั้น

 

 

เมื่อเวลา  14.30 น. วันที่ 23 เม.ย. 2565 ที่สน.สุทธิสาร ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกตัวหนุ่มขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ก่อเหตุ และหญิงสาวผู้เสียหาย เข้าพบ พร้อมสอบปากคำโดยหนุ่มจับขับรถจักรยานยนต์รับจ้างชื่อ นายกอล์ฟ  ให้การว่า ไม้ที่เห็นนั้น คือไม้ตีกลอง ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง เพราะเป็นคนชอบตีกลองเวลาไปสังสรรค์ดื่มกินกับเพื่อน

 

 

ซึ่งในวันเกิดเหตุนั้น ขณะที่ตนกำลังจะกลับบ้านและไปหาเพื่อนพี่ดื่มสังสรรค์ จึงพกไม้ตีกลองไปด้วย แต่ เห็นผู้เสียหายโบกเรียก จึงได้รับโดยสารมา เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาซ้อนท้าย แท่งไม้ตีกลองก็โผล่ลอดจากใต้กางเกง ในลักษณะ นั่งทับไม้ตีกลอง และเวลาขับรถ นายกอล์ฟก็ขยับตัวไปมา ไม้ตีกลองนี้ ก็ขยับไปด้วย ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกไม่ปลอดภัย และเกรงว่าจะเกิดการอนาจาร และกระทำไม่เหมาะสมกับผู้โดยสาร จึงโพสต์เฟซบุ๊ก เตือนภัย เล่าประสบการณ์

 

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย อายุ 24 ปี ระบุว่า วันที่เกิดเหตุ ไม้ตีกลองขยับไปมาจนเกือบถึงเป้ากางเกงจนต้องถอยไปจนเกือบชิดขอบท้ายรถ และยังมีท่าทางขยับตัวไปมา จึงรู้สึกว่า ไม่ปลอดภัยและวินจักรยานยนต์คนนี้ ส่อไปในทางอนาจาร พอได้รู้ว่าเป็นไม้ตีกลองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธ วินจักรยานยนต์แต่ไม่เข้าใจว่า จะพกในระหว่างรับผู้โดยสารทำไมเพราะเชื่อว่าผู้โดยสารใครเจอแบบตนเองก็ต้องคิด

 

สุดท้ายตกลงกันได้ด้วยดี ทางตำรวจได้แจ้งข้อหานายกอล์ฟคนขับวินจักรยานยนต์ ในความผิดฐาน “กระทำการขายหน้าต่อธารกำนัล โดยกระทำการลามกอย่างอื่น และใช้รถไม่ตรงประเภทที่จดทะเบียน” พร้อมทำการปรับข้อหาละ 1,000 บาท

 

หลังจากนั้นทั้งฝ่ายก็ขอโทษกัน โดยนายกอล์ฟขอโทษที่ทำผู้โดยสารตกใจ และจะไม่ทำอีก จากนี้จะเผาไม้กลองนี้ทิ้ง

 

ส่วนผู้เสียหายก็ขอเตือนภัยผู้หญิงที่โดยสารรถสาธารณะให้สังเกตุและระมัดระวัง เพราะในปัจจุบันมีเหตุอันตรายและคุกคามทางเพศเกิดขึ้นจำนวนมาก

 

 

 

 

 

ขอบคุณ ไทยรัฐ/PPTV36