เปิดตัว ซูเปอร์วัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์!

สหรัฐฯ กำลังจะมีการเปิดตัว ซูเปอร์วัคซีน โดยคาดการณ์กันว่า ซูเปอร์วัคซีน ตัวนี้ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งโรคซาร์ส และเชื้อโควิด-19 ทุกตัวรวมทั้งโควิดโอไมครอน

 

 

 

 

นับเป็นข่าวดีสำหรับโลก 2021 ที่สหรัฐฯ กำลังจะมีการเปิดตัว ซูเปอร์วัคซีน โดยคาดการณ์กันว่า ซูเปอร์วัคซีน ตัวนี้  จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งโรคซาร์ส และเชื้อโควิด-19 ทุกตัวรวมทั้งโควิดโอไมครอน ที่ผู้คนเกือบทั้งโลกกำลังหวาดระแวง และทำให้ ผู้คนไม่ยอมมูฟออนไปไหนกันเลย อีกด้วย

 

ด้าน สถาบันวิจัยกองทัพบกสหรัฐ เปิดตัว “ซูเปอร์วัคซีน” ชนิด เฟอร์ริติน นาโนพาร์ติเคิล ที่ป้องกันโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์ หลังผ่านการทดลองแล้วในคน ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

 

ทีมนักวิทยาศาสตร์ของสถาบันเพื่อการวิจัยกองทัพบก วอลเตอร์ รีด ของสหรัฐอเมริกา เตรียมแถลงเปิดตัววัคซีนที่สถาบันฯ พัฒนาขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า วัคซีนดังกล่าวซึ่งนิวสวีคเรียกว่าเป็น “ซูปเปอร์วัคซีน” เพราะเชื่อกันว่า จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันทั้งโรคซาร์ส และเชื้อโควิด-19 ทุกตัวรวมทั้งเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอนอีกด้วย

 

นพ.เคย์ยอน โมดจาร์ราด ผู้อำนวยการสถาบันวอลเตอร์ รีด ระบุว่า วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนชนิด เฟอร์ริติน นาโนพาร์ติเคิล วัคซีน มีโมเลกุลลักษณะรูปลูกฟุตบอลที่มีผิวหน้าแตกต่างกันถึง 24 แบบ ทำให้สามารถจับเกาะกับโปรตีนหนามของโคโรนาไวรัสที่มีสไปค์โปรตีนได้แทบทุกชนิด

 

โดยกองทัพบกสหรัฐเริ่มวิจัยเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ของอนุภาคขนาดนาโน สไปค์-เฟอร์ริติน (SpFN) ตั้งแต่ต้นปี 2563 ซึ่งประสบผลสำเร็จในห้องปฏิบัติการกับหนูทดลอง

 

กระทั่งวัคซีนนี้เพิ่งแล้วเสร็จจากการทดลองในคน ระยะที่ 1 และแสดงผลในทางบวกจนน่าพอใจในการทดสอบกับโอมิครอนและสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีอยู่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลองในคนระยะที่ 2 และ 3 พร้อมๆ กัน

 

สหรัฐฯ เปิดตัว ซูเปอร์วัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์!

 

ด้าน ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) เผยถึงกรณีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสามารถป้องกันโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้นานแค่ไหน

 

โดยข้อมูลทีมวิจัยจากฮ่องกงทดลองเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ ถึงระดับภูมิคุ้มกัน ดังนี้

 

– สูตร ซิโนแวค – ซิโนแวค – กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยไฟเซอร์ (SV-SV-PZ) ได้ระดับที่มากเพียงพอในการยับยั้งการติดเชื้อโอมิครอน

 

– สูตร ซิโนแวค – ซิโนแวค – กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยแอสตร้า (SV-SV-AZ) มีค่าเฉลี่ยที่ต่ำกว่า ระดับแอนติบอดีในการยับยั้งการติดเชื้อโอมิครอน

 

– สูตร ซิโนแวค – ซิโนแวค – กระตุ้นเข็ม 3 ด้วยซิโนแวค (SVx3) ไม่มีระดับแอนติบอดีมากพอจะป้องกันการติดเชื้อโอมิครอนได้

 

– สูตร 2 เข็ม ทั้งไฟเซอร์ 2 เข็ม และซิโนแวค 2 เข็ม มีระดับแอนติบอดีไม่เพียงพอต่อเชื้อเชื้อโอมิครอนเช่นกัน

 

สหรัฐฯ เปิดตัว ซูเปอร์วัคซีน ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ทุกสายพันธุ์!

 

ส่วนข้อมูลทีมวิจัยของสหราชอาณาจักร จากฐานข้อมูลผู้ป่วยผู้ติดเชื้อโอมิครอน จำนวน 68,489 ราย ในการฉีดเข็มกระตุ้นสู้โอมิครอน สรุปได้ว่า

 

1.ผู้ที่ได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 2 เข็ม (AZ+AZ) ตามด้วยไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา ในเข็มที่ 3 พบว่า ประสิทธิภาพป้องกัน 60% ทั้งคู่ แต่ผ่าน 10 สัปดาห์ประสิทธิภาพไฟเซอร์เหลือ 35% ส่วนโมเดอร์นาผ่านไป 5-9 สัปดาห์ เหลือ 45%

 

2.ผู้ที่ได้รับ mRNA อย่างไฟเซอร์มา 2 เข็ม ตามด้วยไฟเซอร์ เข็ม 3 ประสิทธิภาพ 70% ภายใน 1 สัปดาห์ แต่ผ่านไป 10 สัปดาห์ เหลือ 45% แต่หากฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม และกระตุ้นด้วยโมเดอร์นา พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนสูงที่ 70-75% ยาวนานไปถึงมากกว่า 9 สัปดาห์ ซึ่งดูเหมือนว่าสูตรนี้ตกช้ากว่าสูตรอื่นๆ สำหรับโอมิครอนแต่คนไทยใช้สูตรนี้น้อยมาก

 

3.ข้อมูลสำหรับคนที่ฉีดโมเดอร์นา 2 เข็มแบบไม่กระตุ้น ประสิทธิภาพป้องกันโอมิครอนที่ 50% ภายใน 2-4 สัปดาห์ เริ่มตกมาที่ 30% ในสัปดาห์ที่ 10 และ 0% ในสัปดาห์ที่ 20 ดังนั้นก็ต้องฉีดกระตุ้นเช่นกัน

 

 

 

ขอบคุณ TNN Online/springnews