อาบังชาว อินเดีย ที่ถูกหนุ่มคลั่งทำร้ายระหว่างทาง เสียชีวิตแล้ว เจ้าตัวเผยแค่เขม่นทางสายตา เพื่อนบ้านอาบังเผย มาเช่าห้องอยู่คนเดียวนาน 4 ปี เก็บเงินส่งลูกเมีย ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม เตรียมกลับบ้าน แต่มาเกิดเหตุสลดก่อน
วันที่ 22 ต.ค. 2564 จากเหตุการณ์ชายวัยฉกรรจ์ ทราบชื่อต่อมา นายพงษ์กรณ์ หรืออิ๊กคิว อัครสินวรภัทร อายุ 35 ปี ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตามบัตรประชาชนอยู่เลขที่ 120/666 ม.9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อเหตุทำร้ายชาวต่างชาติทราบต่อมาคือ Mr. Bhona Yadav อายุ 36 ปี ชาวอินเดีย ที่ริมสระน้ำหนองรี ใกล้ศาลากลางหมู่บ้าน ต.นางรอง อ.นางรอง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเกิดปลุกปล้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ที่เข้าไประงับเหตุ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด อาบัง ซึ่งถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ได้เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากได้รับกระทบกระเทือนด้านสมอง ขณะที่เช้าวันนี้ญาติของนายอิ๊กคิว ผู้ต้องหา ได้เดินทางมาที่ สภ.นางรอง เพื่อมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายอิ๊กคิว ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ที่ผ่านมาเคยเจออาบังแล้วมองหน้ากันประมาณ 3-4 ครั้ง ตนข้องใจที่อาบังมองหน้า วันเกิดเหตุตนขับรถมอเตอร์ไซค์มาเจออาบังพอดี จึงจอดถามอาบังแต่พูดกันไม่รู้เรื่อง ตนจะให้อาบังไปคุยกันที่บ้าน แต่อาบังไม่ยอมไป แล้วพยายามจะหันรถกลับไปอีกทาง ทำให้กระจกรถเกี่ยวกันจึงเข้าทำร้ายด้วยการชกต่อยจนอาบังล้มลง แล้วใช้เท้ากระทืบที่ศีรษะอีกนับสิบครั้ง ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาเจอ
ขณะที่นางธัญยาทิพย์ อัครสินวรภัทร อายุ 55 ปี แม่ของนายอิ๊กคิว เผยด้านว่าปกติลูกชายเป็นคนใจร้อน ไม่ค่อยพูด ไม่มีครอบครัว เคยติดคุกในคดีแทงคนมาแล้ว 1 ครั้ง และติดคุกในคดียาเสพติดอีก 1 ครั้ง เพิ่งพ้นโทษมายังไม่ถึง 1 ปี เหตุการณ์ครั้งนี้ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เบื้องต้นได้สอบถามลูกชายแล้ว ยอมรับว่าทำจริง และจะขอไปใช้กรรมต่อ
นางสาวอภิญญา วรวงค์ อายุ 35 ปี เพื่อนบ้านเช่าห้องใกล้กับอาบัง เล่าว่า อาบังมาเช่าห้องอยู่คนเดียว มานานกว่า 4 ปีแล้ว เป็นคนอัธยาศัยดี ประกอบอาชีพขายของทั่วไป อาบัง เคยเล่าให้ฟังว่า อยากจะกลับบ้านที่อินเดีย แต่มีโรคโควิด-19 มาระบาดก่อน ตอนนี้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ได้วางแผนเตรียมจะกลับไปเยี่ยมบ้าน แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ก่อน
“อาบังมีอาชีพขายของเงินเชื่อ และจะใช้เส้นทางนี้กลับบ้านทุกวัน อาบัง เป็นคนเรียบง่าย ประหยัด รักครอบครัว บางครั้งยอมอด เพื่อต้องการเก็บเงินส่งให้ครอบครัวที่ประเทศอินเดีย เพื่อนบ้านกล่าว
ขณะเดียวกัน เด็กหญิงอายุ 13 ปี ซึ่งเห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังคล้ายกับสามีภรรยาทะเลาะกัน จึงหันไปดู พบชายไม่สวมเสื้อคือนายอิ๊ก ชี้หน้าด่าอาบัง จากนั้นได้เตะไปที่ก้านคอขณะที่อาบังคร่อมรถมอเตอร์ไซค์อยู่จนอาบังตกลงจากรถ อาบังได้คุกเข่ายกมือไหว้ขอไม่ให้ทำร้าย แต่กลับถูกนายอิ๊กเตะเสยไปที่ปลายคาง ทำให้อาบังหงายลงไปนอนแน่นิ่ง นายอิ๊ก ยังเข้าไปกระทืบศีรษะแบบไม่ยั้ง พร้อมส่งเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ขึ้นไปเหยียบตัวอาบังแล้วขย่ม แต่ยังไม่หนำใจ นายอิ๊กได้ลงมาจากร่างแล้วเตะซ้ำอีกหลายครั้ง ทำให้คนที่ขับรถผ่านไปมาไม่กล้าเข้าไปช่วย เมื่อเห็นเหตุการณ์ต่างเลี้ยวรถกลับ เพราะกลัวจะได้รับอันตราย เพราะนายอิ๊กบ้าคลั่ง และรู้ประวัตินายอิ๊กมาพอสมควร
ด้านนายวรบดินทร์ รุ่งโรจน์ชัยกุล อายุ 45 ปี หัวหน้าหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ บุรีรัมย์ บอกว่า หลังรับแจ้งได้เข้าไปลงพื้นที่ใช้เวลาประมาณ 3 นาที เห็นตำรวจกำลังเจรจา แต่นายอิ๊กไม่ยอมให้กู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ตำรวจต้องเบี่ยงเบนความสนใจ จนมีช่วงหนึ่งไปปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บ แต่กลับถูกนายอิ๊กไม่ยอมให้เคลื่อนย้าย จึงเกิดภาพดังกล่าวขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีคนมาขัดขวางไม่ให้เข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ คาดว่านายอิ๊กน่าจะคลั่งมาจากอะไรบางอย่าง
ในส่วนของคดี ล่าสุด พ.ต.ต.จิรโรจน์ มงคลธนสุพัฒน์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้แจ้งข้อหานายอิ๊ก “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” และเสพสารเสพติด เพราะตรวจพบปัสสาวะเป็นสีม่วง ส่วนประวัติในเรือนจำ พบว่าเป็นขาใหญ่ในเรือนจำนางรอง เคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง
ด้านนายศุภกิจ จันทร์ทรง อายุ 35 ปี หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ ที่ถูกร่างหลายคนทับอยู่ขณะเข้าชาร์จนายอิ๊กคิว บอกว่า ช่วงนั้น จนท.กู้ภัย พยายามเจรจาผู้ก่อเหตุ เพื่อจะเอาคนเจ็บไปรักษา แต่นายอิ๊กคิว ไม่ยอม ทั้งตำรวจและกู้ภัย มองเหมือนกันคือต้องเข้าชาร์จ เมื่อถึงเวลาตำรวจเอาไม่อยู่เพราะเป็นคนรูปร่างใหญ่และแข็งแรงมาก ตนจึงวิ่งเข้าไปจับขา ทันใดนั้นนายอิ๊กคิว ได้ล้มลงใสตน ก่อนเจ้าหน้าที่จะล้มทับอีกที ตนแทบหายใจไม่ออก ตอนนี้รู้สึกเจ็บหน้าอก แต่โชคดีทีเหตุการณ์ผ่านพ้นไปได้
ขอบคุณ ไทยรัฐ/บ้านเมือง