ผู้การกาฬสินธุ์แจ้งข้อหา ร่วมกันประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผอ.โรงเรียน และครูประจำฐาน ปมน้องปอน นักเรียนม.3 เสียชีวิตจากการจมน้ำ ขณะเข้าฐานหนีสงคราม โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วย
จากกรณี นายทองนพเก้า สีทา หรือ “น้องปอนด์” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนนาค้อวิทยาคม ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จมน้ำเสียชีวิตในหนองน้ำสาธารณะที่อยู่ติดกับโรงเรียน หลังจากร่วมกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยทางญาติติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต และคาดว่าลูกชายจมน้ำขณะเข้าฐาน “หนีสงคราม” ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กดำน้ำที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ป้องกันช่วยเหลือ และได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ดำเนินคดีกับคณะครูผู้เกี่ยวข้อง
ล่าสุดวันนี้ (26 มี.ค.) พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากกรณีการเสียชีวิตของน้องปอนด์ หรือนายทองนพเก้า สีทา อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนนาค้อวิทยาคม ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเสียชีวิตในวันเข้าค่ายลูกเสือที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น โดยพบศพจมน้ำอยู่บริเวณให้กับฐานหนีสงคราม โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังพบศพผู้ปกครองและญาติน้องปอนด์ มุ่งเป้าไปที่สาเหตุการเสียชีวิตขณะเข้ากิจกรรมลูกเสือ จากนั้นเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก เพื่อดำเนินคดีกับคณะครูและผู้ที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ไปเก็บหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลประมาณ 20 ปาก ตลอดจนพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อประมวลเหตุการณ์ และรวบรวมพยานหลักฐานคลี่คลายคดี โดยเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.ห้วยเม็ก ได้สอบปากคำเด็กนักเรียนในกลุ่มที่เข้าฐานหนีสงครามกับน้องปอนด์ 6 คน รวมทั้งผู้ปกครองมาสอบปากคำ ที่สำนักอัยการ จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ในขณะที่คณะทำงานชุดสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ได้เรียกผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้ควบคุมการเข้าค่ายลูกเสือฐานดังกล่าวมาสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวเพิ่มว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำนักเรียนและพยานแวดล้อมให้การว่า ช่วงเกิดเหตุเห็นน้องปอนด์ลงไปในน้ำเข้าฐานหนีสงคราม แต่ขณะขึ้นมาจากน้ำไม่เห็น จึงคาดว่าจะจมน้ำเสียชีวิตขณะร่วมกิจกรรมฐานดังกล่าว โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยเม็ก ได้เชิญตัวผู้อำนวยการโรงเรียนและครูผู้ควบคุมฐานหนีสงครามมารับทราบข้อกล่าวหา “ร่วมกันประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” โดยทั้ง 3 คนรับสารภาพและยอมรับว่าการให้เด็กนักเรียนลูกเสือเข้าฐานดังกล่าวไม่ได้มีการเตรียมการให้ดี ไม่ได้วางแผนป้องกันอุบัติเหตุให้ดี จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ในส่วนของการสืบสวนสอบสวน กรณีผู้ปกครองแจ้งความกรณีดื่มสุราในสถานศึกษาหรือในเวลาราชการนั้น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่อไป.