หลังจากชาวเมียนมาหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งพิเศษบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับผู้นำรัฐประหารเมียนมาแล้ว
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ลงนามคำสั่งพิเศษบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับผู้นำรัฐประหารเมียนมาในวันพุธที่ 10 ก.พ. 2564 โดยมุ่งเป้าไปที่ผู้นำกองทัพ, ครอบครัว และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา และปิดกั้นไม่ให้กองทัพเมียนมาเข้าถึงกองทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่อยู่ในสหรัฐฯ
ด้วยความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากชาวเมียนมาหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา จนกองทัพต้องสั่งห้ามชุมนุมและใช้มาตรการเคอร์ฟิว แต่ก็ไม่อาจหยุดผู้ประท้วงได้ จนกระทั่งในวันอังคาร ตำรวจใช้กำลังสลายการชุมนุม และยิงกระสุนยางถูกหญิงชาวเมียนมาวัย 19 ปี คนหนึ่งจนบาดเจ็บสาหัส และตอนนี้กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเนปิดอว์
นายไบเดนยังเรียกร้องให้กองทัพเมียนมาคืนอำนาจให้กับประชาชน และปล่อยตัวนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย “ชาวเมียนมากำลังเปล่งเสียงขอพวกเขา และโลกกำลังจับตาดู ในขณะที่การประท้วงขยายตัวขึ้น การใช้ความรุนแรงต่อผู้ที่กำลังพยายามอย่างมากเพื่อสิทธิประชาธิปไตยของพวกเขา เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเราจะเรียกร้องต่อไป”
ผู้นำสหรัฐฯ เผยอีกว่า รัฐบาลของเขาจะระบุเป้าหมายของการคว่ำบาตรกลุ่มแรกภายในสัปดาห์นี้ “เราจะใช้มาตรการควบคุมการส่งออกอย่างรุนแรง, เราจะอายัดทรัพย์สินในสหรัฐฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลเมียนมา ในขณะที่รักษาการสนับสนุนด้านสาธารณสุข, กลุ่มสังคมสงเคราะห์ และด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชาวเมียนมาเอาไว้”.
ขอบคุณ ไทยรัฐ