โบ TK แถลงหลังให้การตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี คดี แตงโม นิดา เสียชีวิต ชี้มีคนบนเรือบิดเบือน ฝากถึง กระติก พูดความจริง ยอมรับรู้สึกเสียใจและโกรธมาก ยํ้าข้อมูลที่ให้กับตำรวจวันนี้ จะเป็นประโยชน์-ให้ความเป็นธรรมกับแตงโมมากที่สุด หลังจากจบการแถลงข่าว เหล่าคนบันเทิงต่างออกมาเคลื่อนไหวพร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่โบได้ออกมาพูด พร้อมแห่ติดแฮชแท็ก #เซฟโบทีเค
วันที่ 3 มีนาคม 2565 โบ สุรัตนาวี หรือ โบ TK ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกรณีแตงโม นิดา ตกน้ำ ซึ่งได้ปรากฎภาพของเธอในคืนนั้นด้วย จนหลายคนเพ่งเป้าสงสัย โดย โบ TK ระบุว่าตนเองมาในฐานะพยานในคดี ตนในฐานะที่สนิทับแตงโม ตนเสียใจมาก ๆ วันนี้มาให้การตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยมีใจความดังต่อไปนี้
เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง
กระติก โทร. หาตน และแจ้งว่าแตงโมตกน้ำ ตอนนั้นตนตกใจมาก บอกตามตรงว่าทำอะไรไม่ถูก และถามข้อมูล ซึ่งไม่ขอลงรายละเอียดเพราะให้การกับตำรวจไปหมดแล้ว ทั้งนี้ ทั้งกระติก และแตงโม อยู่ที่คริสตจักรเดียวกัน มีความผูกพันกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน ที่คริสตจักร เวลามีใครมีปัญหา เจ็บป่วย เสียชีวิต ก็จะมีการโทร. หาตนอยู่แล้ว แต่เรื่องแตงโมนั้นช็อกมาก
พอตนไปถึงที่เกิดเหตุที่ท่าเรือ NBC ก็พบกับทุกคนที่อยู่ในข่าว ตนก็อยู่ตรงนั้นถึงตีสาม หลังจากนั้นก็ขับรถแตงโมไปส่งกระติกที่บ้าน เพราะกระติกดูช็อก และขับรถไม่ไหม ตอนแรกกระติกส่งโลเคชั่นตรงที่เกิดเหตุมา ตนกำลังจะไปถึงแล้ว แต่กระติกบอกว่าคนเยอะมาก มีเรื่องโควิดด้วย นักข่าวเยอะ อย่าเพิ่งไปเลย ตนก็โอเค
ข้อความในไลน์ ที่แนะนำกระติกว่า “ไม่ต้องพูดว่า ฉี่บนเรือ”
ตอนนั้นกระติกโทร. มาบอกตนว่ากระติก ไม่ได้เป็นคนเห็นเหตุการณ์ แต่เป็นอีกคนหนึ่งที่เห็น ตนจึงบอกเขาไปว่า “แล้วทำไมเราถึงพูดว่าไปฉี่ล่ะ” กระติกก็ถามว่าต้องพูดกับตำรวจยังไง ซึ่งตนก็บอกไปว่าต้องพูดความจริงในสิ่งที่เห็นเท่านั้น ไม่ควรที่จะพูดว่าไปฉี่ เพราะเขาไม่ได้เห็นด้วยตัวเอง อีกทั้งแตงโมยังเป็นคนที่รักษาภาพลักษณ์มาก ๆ เวลาตนโพสต์ภาพแล้วแท็กเขาไป แล้วเห็นว่าเขาอ้วนนิดหนึ่ง เขาก็จะส่งข้อความมาเลยว่า “ลบรูปนี้เถอะ อ้วนว่ะ” ซึ่งข้อความนี้ก็ยังอยู่ ตนไม่อยากให้มีภาพจินตานาการไปว่าเขาไปนั่งแหก ซึ่งมันก็เกิดขึ้นแล้ว
คนบนเรือ ไปออกรายการหนึ่งแล้วใช้ข้อความที่ตนพูดตอนยังไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร รู้แค่จากกระติก ไปบอกว่า “โบแนะนำไม่ให้พูดความจริง แต่เขาเลือกที่จะพูดความจริง ตนขอถามหน่อยว่า “คุณเห็นเหตุการณ์จริง ๆ ว่าแตงโม ปัสสาวะหรือเปล่า แล้วคุณพูดแบบนั้น นั่นคือความจริงเหรอ ซึ่งสังคสมก็คงจะคิดเหมือนตนว่าเขาก็ไม่ได้พูดความจริงเหมือนกัน
ทำไมเพิ่งมาให้การในวันนี้
– ตอนที่โบ อยู่ท่าเรือ เห็นเหตุการณ์หลาย ๆ อย่าง
– ตนเป็นคนแรก ๆ ที่กระติกโทร. หา ตนมีข้อมูลที่กระติกพูด แต่พอเขาไปออกรายการทีวี และคำให้การ คำพูดต่าง ๆ ของเขา มันขัดแย้งกับสิ่งที่ตนรู้ และได้ยินมา ตนรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง และรอให้เขาพูดให้จบ แล้วตอนนี้ถึงเวลาที่เหมาะสมจึงออกมาพูดความจริง
– ที่ต้องมีทนาย เพราะคดีนี้สังคมจับจ้อง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีฐานะ มีสังคมในระดับหนึ่ง การที่ตนจะพูดอะไร อยากได้ความมั่นใจว่าคำพูดจะไม่ถูกบิดเบือน ไม่ถูกกลั่นแกล้ง โดยใครคนใด ทำให้มันย้อนกลับมาทำร้ายตนได้ เหมือนกับที่ตนเห็นและรู้สึกว่าทำไมคนมาว่าตน
สาเหตุที่แตงโมตกเรือ
– ตนรู้มาว่าแตงโมไปฉี่ ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ตนตอบไม่ได้
ประเด็นเรื่องที่เป็นญาติเบนซ์ พริกไทย
รูปนั้นถ่ายในงานแต่งญาติโบ ตอนนั้นคิดว่าเป็นเพื่อนของบ่าวสาว ก็ถ่ายรูปคู่กัน แต่ที่เขาบอกว่าเขาเป็นญาติตน ตนเพิ่งรู้วันอังคารที่ 1 มีนาคม 2565 แล้วเขาโทร. เข้ามา ตนไม่ได้รับ แล้วแม่ตนมาบอกว่าถ้ามีเบอร์นี้โทร. มาคือน้องเบนซ์โทร. มา ก็ทราบว่าเป็นญาติของตนในภายหลัง ทราบว่าเป็นลูกของพี่ชายคุณแม่
โดยพี่ชายของแม่ เลิกกับภรรยา ตั้งแต่เบนซ์ยังเด็ก แล้วแม่ของเบนซ์ ก็แต่งงานใหม่กับตำรวจ ซึ่งเบนซ์ ก็กลายเป็นลูกบุญธรรมของตำรวจ ซึ่งเบนซ์ ก็มารู้เรื่องที่เป็นลูกบุญธรรมในตอนที่โตแล้วด้วยซ้ำ
ยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเป็นน้องเขย น้องสะใภ้ไฮโซปอ แต่อย่างใด
คำพูดที่กระติกมาบอกตนนั้นมีการบิดเบือนเยอะ แต่บอกไม่ได้ว่าอยากไร เพราะเป็นการทำงานของตำรวจ
– คำพูดของกระติก ตนบอกได้เพียงแค่ว่ามีความบิดเบือน
– ตนไปถึงตรงนั้นประมาณเที่ยงคืน และเจอทุกคน
– ตอนไปเจอนั้น ทุกคนอยู่ในอาการช็อกและตกใจ ถ้าถามตนก็พบว่ามีอาการหน้าแดง เสียงดัง โวยวาย เสียงแหบ ขออนุญาตไม่พูดเกี่ยวกับว่าเมา หรือไม่เมา เพราะต้องรักษาคำพูดที่ให้การกับเจ้าหน้าที่ ยืนยันว่าเป็นคำให้การที่เป็นประโยชน์และให้ความเป็นธรรมกับแตงโม
– ตนเป็นคนพากระติกมาโรงพักหลังเกิดเหตุ บอกตามรงว่ารู้สึกเสียใจ ก็มีความโกรธ แต่โบ ก็ยังรักเขานะคะ คิดว่าถ้าเขากลับใจ และเขาเลือกพูดในสิ่งที่เขารู้จริง ๆ เราก็จะมาช่วยกัน
– กระติกติดต่อมาหาตนว่าขอโทษที่ทำให้ตนมีส่วนเกี่ยวข้อง ตนบอกเขาไปคำเดิมว่า “กระติก…The Truth Will Set You Free สัจจะจะทำให้คุณเป็นไท ความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องคุณได้” ก่อนที่เขาจะส่งรูปร้องไห้มา
– ยอมรับว่าเสียความรู้สึกกับกระติก
– วันเกิดเหตุ ตอนไปถึงตนบอกกระติกว่า โทร. หาเบิร์ดหรือยัง โทร. หาแม่หรือยัง ซึ่งเหตุผลที่ไม่โทร. ก็ตามที่เขาพูดเลย เป็นเหตุผลของเขา
– กระติกโทร. มา บอกว่า “พี่ โมตกน้ำ หาคนช่วยหน่อย” ตนก็ถามว่าตกยังไง เกิดอะไรขึ้น และเขาก็อธิบายมา ในส่วนที่ตกขอให้เรื่องของคำให้กับกับตำรวจ
ทำไมกระติกต้องโทร. หา
– ที่โบสถ์ ใครจะเป็นจะตาย จะไปโรงพยาบาล หัวใจวาย จะต้องโทร. หาตนหมด ตนไม่แปลกใจที่เขาโทร. หาตน
– แตงโม มีอะไร จะปรึกษาตน ส่วน กระติกจะมีพี่อีกคนที่เป็นที่ปรึกษา ซึ่งกระติกจะรู้ว่าตนสนิทกับแตงโม
– โบ ยืนยันว่าไม่รู้จักกับโรเบิร์ตมาก่อน ไม่เคยเจอกันเลย ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่โรเบิร์ตรู้จักกับพี่ชายตน
– ใน 5 คน ตนรู้จักกับกระติกคนเดียว
เหตุผลที่กระติกบิดเบือนในรายการต่าง ๆ เขาได้ให้เหตุผลไหมว่าทำไมต้องบิดเบือน
– กระติกไม่ได้บอก ตนพูดในส่วนของตน เขาจะพูดอะไร นั่นคือในส่วนของเขา
– ตั้งแต่ที่กระติกให้การ ตนไม่ได้คุยกับเขาเลย พอตนรู้ว่าเขาพูดอะไร ตนไม่ได้คุยกับเขาเลย ไม่ได้คุยกันว่าเขาจะพูดว่าอะไรด้วยซ้ำ
– วันเกิดเหตุ แตงโม ไม่ได้โทร. หาตนเลย ตนไม่รู้ว่าเขาจะไปลงเรือกัน
– คำให้การในวันนี้ เป็นการพูดในส่วนที่ตนเห็นทั้งหมด และให้ความเป็นธรรมกับแตงโม
– ตอนที่ขับรถแตงโม ไปส่งกระติกใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พบว่ากระติกเครียด น้ำตาคลอบ้างบางครั้ง ช็อก กระติกโทษตัวเอง ที่ไม่ได้ดูแลแตงโม ในวินาทีนั้น
– ตอนแรกที่กระติกโทร. มาตอนแรกบอกว่าแตงโม ตกเรือ ตนเชื่อมาก ๆ แต่พอตนไปที่ท่าเรือ ตนก็รู้สึกว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแค่นั้น ขออนุญาตไม่ตอบต่อแล้ว
– ในส่วนของตน ตนคิดว่าถ้าตนได้เห็น ได้พบอะไรที่ต้องพูด ตนก็ไม่คิดว่าเป็นภาระอะไร ซึ่งที่กระติกบอกว่าการที่แตงโมตาย เป็นการทิ้งภาระให้ ก็เรื่องของเขา
– ถ้าตอนนั้นเพื่อนตกน้ำ แล้วตนไม่ไป ก็จะยิ่งแปลกมากกว่า แตงโม เป็นคนที่ห่วงคนอื่นอยู่แล้ว ตนตอบไม่ได้ว่าถึงวันนั้นเขาจะทำอะไร แต่แตงโม ที่ตนรู้จัก เขาไม่ได้คิดถึงตัวเองก่อนเลย
ทำไมถึงเป็นคนโพสต์รูปแตงโม
– ตนส่งรูปแตงโม ไปให้กรมเจ้าท่า และ “บีม” ตนส่งไปเวลา 14.37 น. การที่ตนโพสต์รูปแตงโม เป็นเพื่อประโยชน์ในการค้นหาเท่านั้น ซึ่งหลังจากที่ได้รับคำแนะนำ ตนก็ไปขอรูปจากกระติก และนำมาโพสต์
– ยอมรับว่ากังวล เครียด ที่ออกมาให้การ เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น ตนไม่สนว่าใครจะว่าอะไรตน สิ่งที่ตนเห็นความสำคัญอย่างแรกคือการหาแตงโมให้เจอ การเรื่องแตงโมให้เจอ
– อย่างที่ตนบอกว่าเวลานี้คือเวลาที่เหมาะสม คนมองว่าทำไมตนไม่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะตนเห็นที่เขาให้สัมภาษณ์ ซึ่งถ้าคำให้การของเขาตรงกับที่เขาบอกตน ตนจพไม่รู้สึกอะไร แต่ยังไงตนก็ต้องมาให้การอยู่ดี แต่อันนี้มันมีเหตุ อย่างที่ทุกคนเห็นที่เขาไปออกโหนกระแส และการออกมาพูด
– ที่ตนบอกบางส่วนไม่ได้เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว ไม่ทราบว่าจากใคร มันอาจจะเป็นส่วนสำคัญในคดี ทนายจึงแนะนำว่ายังไม่ให้พูด และขอร้องสื่อไม่ให้ข้อเท็จจริงออกไปมากเกินสมควร
– ได้ดูรายการโหนกระแส ดูทุก ๆ ชอต ยอมรับว่าไม่ค่อยพอใจ ตนคิดว่าทุกคนควรพูดความจริง ทุกคนควรได้รับความยุติธรราม ไม่ว่าจะยากดีมีจน หรือจะไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม
หลังจากนั้น นักข่าว ได้ถามว่าจะฝากบอกอะไรกระติก ซึ่งโบ ได้ยกข้อความจากคัมภีร์ไบเบิ้ล ที่ระบุว่า
“The Truth Will Set You Free สัจจะจะทำให้เป็นไท ความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องคุณได้” John 8:32
ขอบคุณ เรื่องเล่าเช้านี้/ไทยรัฐ/pptv36
